ข่าวพาดหัวฉ้อโกงประชาชนร้องเรียน

ประจวบฯ – ส่อวุ่นบริษัทรับเหมาประจวบฯจ่อลงขันฟ้องเรียกเงินค้ำประกันสัญญาจ้าง จนท. อ้างจ่ายช้าเหตุโดนลูกจ้างโกง 40 ล้านนานเกือบ 2 ปี

ส่อวุ่นบริษัทรับเหมาประจวบฯจ่อลงขันฟ้องเรียกเงินค้ำประกันสัญญาจ้าง จนท. อ้างจ่ายช้าเหตุโดนลูกจ้างโกง 40 ล้านนานเกือบ 2 ปี

กรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 30 ปี อดีตพนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของราชการเกือบ 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS อ้างว่านำเงินจากการทุจริตไปเล่นพนันออนไลน์ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม มีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา พ้นการคุมขังจากเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 หลังครบกำหนดฝากขัง 7 ผัด รวม 84 วัน ขณะที่ล่าสุดอัยการคดีทุจริตภาค 7 ยังไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย

ความคืบหน้า วันที่ 5 มีนาคม จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รายงานผลการสอบวินัยร้ายแรงลงโทษนางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกปลดออกจากราชการ นางประชิต วงศ์ประภารัตน์ หัวหน้างานการเงินและบัญชี ถูกไล่ออกจากราชการ นายกันตพล สุดพิมศรี หัวหน้างานอำนวยการถูกลดขั้นเงินเดือน ล่าสุดเครือข่ายฯยื่นร้องเรียนถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่วนกลาง เนื่องจากเห็นว่าสำนวนสอบสวนในคดีอาญาของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯและการสอบวินัยของกระทรวงมหาดไทยมีพิรุธโยงไม่ถึงข้าราชการระดับสูงหลายราย ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าอดีตลูกจ้างเพียงรายเดียวจะยักยอกเงินหลวง 40 ล้านบาทได้โดยลำพัง

“ เครือข่ายฯ จะติดตามผลการทำสำนวนเพิ่มเติมของคณะพนักงานสอบสวน จนกว่าอัยการคดีทุจริตภาค 7 จะมีคำสั่งฟ้อง จากเดิมคดีนี้มีผู้ต้องหาเพียง 3 รายประกอบด้วยจำเลยที่ 1 น.ส.ขนิษฐา จำเลยที่ 2 น.ส.สายพิณ ดิบดีพร้อม อายุ 62 ปี มาดาของ น.ส.ขนิษฐา และจำเลยที่ 3 นางประชิต วงศ์ประภารัตน์ หัวหน้างานการเงินและบัญชี ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157แต่ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนไม่กล่าวโทษอาญากับนางกัลยารัตน์ ในฐานะผู้กำกับดูแลและร่วมมอบรหัสการเบิกจ่ายในระบบให้ลูกจ้างทำการทุจริตเช่นเดียวกับหัวหน้างานการเงิน “จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว

ด้าน บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ได้มอบอำนาจให้สำนักงานทนายความทำหนังสือถึงผู้เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเมื่อช่วงกลางปี 2564 ขอให้มีการเบิกจ่ายเงินประกันสัญญาที่ค้างจ่าย หลังจากยื่นเอกสารทวงถามเงินหลักประกัน 3 สัญญาจ้าง รวมเงินประกัน กว่า 4 แสนบาท ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้รับเงินคืน โดยจังหวัดอ้างการเบิกจ่ายล่าช้า เนื่องจากมีลูกจ้างสำนักงานจังหวัดทุจริต ที่ผ่านมาจึงมอบอำนาจให้ทนายความทวงถามอีกครั้ง จะครบกำหนดในเดือนมีนาคม นี้ หากไมมีความคืบหน้าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย ขณะที่สำนักงานจังหวัดต้องชำระตามข้อผูกพันสัญญาจ้างค้างชำระกับบริษัทรับเหมารวมเกือบ4 ล้านบาท

ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม หลังจากรับการว่าจ้างจากสำนักงานจังหวัด ก่อสร้างโครงการปรับปรุงถนนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ในพื้นที่ อ.เมือง ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร (กม.) ใช้งบ 37.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 แต่หลังจากทำงานเสร็จตามกำหนด ขณะนี้ผู้รับมอบอำนาจแจ้งว่ายังไม่รับเงินค่างวดรวมกว่า 22 ล้านบาท โดยผู้เกี่ยวข้องอ้างสาเหตุความผิดพลาดเกิดจากลูกจ้าง ทำระบบคืนเงินงบประมาณโครงการผิดพลาดจากการใช้ระบบ GFMIS ขณะที่หัวหน้าสำนักงานจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบการเบิกจ่ายงบให้ผู้รับเหมาถูกสอบสวนความผิดทางละเมิดเพื่อชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

//////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เบอร์โทร 099 3396444