ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายพาดหัวข่าว

ไล่ยิงกันกลางตลาด มือปืนยิงตัวเองดับ ปมขายกางเกงแบบเดียวกัน ตลาดทุ่งครุพลาซ่า

ไล่ยิงกันกลางตลาด มือปืนยิงตัวเองดับ ปมขายกางเกงแบบเดียวกัน ตลาดทุ่งครุพลาซ่า

วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น.

ร้อยตำรวจเอก จีระศักดิ์ หอมนาน รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในตลาดใหม่ทุ่งครุพลาซ่า และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 4 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุหน้าแผงขายกางเกงยีนส์มือสอง พบศพ นายกนกพล มัชชิมา หรือหนุ่ย อายุ 72 ปี เจ้าของแผงขายกางเกงยีนส์ดังกล่าว สภาพนอนตะแคงขวาสวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตแขนยาวสีขาวดำกางเกงขายาวสีขาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่หน้าผากทะลุศีรษะด้านหลัง 1 นัด ใกล้ศพพบปืนขนาด9 มม. และปลอกกระสุนบริเวณที่เกิดเหตุ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกอาวุธปืนยิง ทราบชื่อ คือ นายชูศักดิ์ อำนาจมงคล อายุ 62 ปี เจ้าของแผงขายกางเกงยีนส์มือสองใกล้ที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้านหลังขวา 1 นัด นำส่งรพ.สุขสวัสดิ์ และนายพิบูล รัตนฤกษ์เศรษฐ อายุ 62 ปี พ่อค้าขายของใกล้จุดเกิดเหตุถูกลูกหลงขณะเข้าไปห้ามปืนลั่นใส่เฉี่ยวใต้รักแร้ซ้าย ส่ง รพ.ไอเอ็มเอช ธนบุรี

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังตลาดทุ่งครุพลาซ่า ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และได้พูดคุยกับนางน้อย อายุ 65 ปี ภรรยาของ นายกนกพล มัชชิมา หรือหนุ่ย อายุ 72 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยทางด้านของนางน้อย ยอมรับว่าก่อนหน้านี้สามีของตน เคยมีปัญหากับนายชูศักดิ์ อำนาจมงคล ผู้บาดเจ็บ เนื่องจากทางฝั่งของผู้บาดเจ็บ ไม่ต้องการให้ร้านของตนขายกางเกงยีนส์แบบเดียวกัน เพราะร้านของตนขายดีกว่า จึงมาไล่ตนออกจากตลาด 3-4 ครั้งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้สามีของตนเคยโดนทางตลาดเรียกไปคุย และเคลียร์กันจบไปแล้ว

แต่วันนี้ช่วงที่ขายของอยู่ที่ตลาด สามีของตนก็เดินไปหานายชูศักดิ์ อำนาจมงคล ผู้บาดเจ็บที่ร้าน หลังจากนั้นก็เกิดมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมีคนเข้ามาห้าม และแยกทั้งสองคนออกจากกัน หลังจากนั้นสามีของตนจะได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ ก่อนที่จะวิ่งกลับมาหาตน แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิตที่ร้าน ยอมรับที่ผ่านมาสามีของตนแค้นฝังใจที่ถูกผู้บาดเจ็บ มาไล่ไม่ให้ขายของที่ตลาดหลายครั้ง บวกกับกลัวว่าจะไม่มีที่ทำมาหากิน จึงทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.มาติกา สุขขีพันธุ์ อายุ 19 ปี ลูกค้าที่มาซื้อของ โดยทางด้านของนางสาวมาติกา คือลูกค้าที่มาซื้อกงเกงยีนส์ ที่ร้านที่เกิดเหตุในช่วงที่เกิดเหตุ โดยทางด้านของนางสาว มาติกา เผยว่า ตนไม่รู้จักกับนายกนกพล ผู้ก่อเหตุมาก่อน ซึ่งทางด้านของนางสาวมาติกา เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดเหตุ ตนมาซื้อของที่ร้านที่เกิดเหตุ โดยในระหว่างที่กำลังลองกางเกงยีนส์อยู่นั้น ทางด้านของนายกนกพล ผู้ก่อเหตุ ได้เดินเข้ามาที่บริเวณหน้าร้าน หลังจากนั้นก็ได้ใช้อาวุธปืน ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนที่จะหันอาวุธปืนกระบอกเดียวกัน มาจ่อหัวตนด้วยความตกใจ ตนจึงพยายามจะวิ่งหนี ทำให้วิ่งไปทับตัวของ ภรรยา นายชูศักดิ์เจ้าของร้าน ก่อนจะล้มลง ซึ่งในตอนนั้นนายกนกพล ตั้งใจจะใช้ปืนยิงภรรยาของนายชูศักดิ์ แต่ตนบังอยู่ นายกนกพลจึงบอกว่า “มึงอย่านะ” จากนั้นนายกนกพล ก็ยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด ก่อนจะมีคนเข้ามาห้าม และพยายามแย่งปืน หลังจากนั้นนายกนกพล ก็เดินกลับร้านไป

ซึ่งส่วนตัวก็ไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาอะไรกับผู้บาดเจ็บมาก่อน แต่ช่วงที่เกิดเหตุนั้น ก็ไม่ได้มีการทะเลาะ หรือมีปากเสียงอะไรกัน

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายมูฮัมหมัด นูรนเลาะ อายุ 39 ปี พ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ตนเองไม่รู้ว่าทั้งสองร้านมีปัญหาอะไรกัน แต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาทางด้านของนาย กนกพล มัชชิมา อายุ 72 ปี ชื่อเล่นชื่อหนุ่ย ผู้ก่อเหตุ เดินผ่านหน้าร้านของตน ตนเองจึงยกมือสวัสดีทักทายตามปกติ หลังจากนั้นทางด้านของนายกนกพล ก็เดินผ่านไป แล้วเดินวกกลับมา จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายชูศักดิ์ อำนาจมงคล ผู้บาดเจ็บ โดยไม่ได้มีปากเสียงอะไรกันมาก่อน หลังจากนั้นก็ยังพยายามจะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาของนายชูศักดิ์ แต่โชคดีภรรยาของนายชูศักดิ์ หนีทัน จากนั้นทางด้านของนายกนกพลก็เดินกลับไป

ส่วนปมปัญหานั้นตนเองไม่แน่ใจ รู้เพียงว่า ตัวของผู้ก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บนั้นขายกางเกงยีนส์เหมือนกัน และร้านก็อยู่ใกล้กันอีกด้วย

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางด้านของนางสาวแหม่ม ภรรยาของนายชูศักดิ์ เจ้าของร้านกางเกงยีนส์ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้โทรศัพท์ไปหาปลายสายที่คาดว่าเป็นลูกชาย โดยมีการบอกกับปลายสายว่า “แบงค์มาเร็วๆ เลย ป๊าโดนยิง” หลังจากนั้นก็ร้องไห้ โดยมีทางด้านของนางสาวมาติกา สุขขีพันธุ์ ลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ คอยปลอบ และเอายาดมให้ เนื่องจากกลัวว่าตัวของนางสาวแหม่มจะเป็นลม

ส่วนทางด้าน น.ส.แอนศิริ วลัยกนก สส.เขตทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า วันนี้ตนมาลงพื้นที่จัดกิจกรรมหลายๆอย่าง ในเขตทุ่งครุ แล้วตนมาทราบว่าภายในตลาดทุ่งครุพลาซ่า มีเหตุยิงกันตาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทุ่งครุด้วย ตลาดทุ่งครุพลาซ่า มีอยู่ 2 ฝั่ง ฝั่งนึงเป็นตลาดใหม่ทุ่งครุ อีกฝั่งนึงเป็นตลาดทุ่งครุพลาซ่า ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งทุ่งครุพลาซ่า ประชาชนก็จะมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นประจำ แล้วมีเหตุยิงกันแบบนี้ตนคิดว่า อาจจะมีการทะเลาะกัน ทราบจากภรรยาว่าขายของเหมือนกัน เลยเกิดการทะเลาะวิวาทกันแล้วคนก่อเหตุก็มีปืนซึ่งก็มีการจดทะเบียน แต่การที่พกปืนแล้วเกิดการโมโหโทสะขึ้นมาเลยใช้ปืนมาก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะว่าเกิดการทะเลาะกันมาถึง 3 ครั้งแล้ว ตนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่อยากให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน อยากให้เก็บอารมณ์ตัวเองไว้ อยากให้ใจเย็นๆกัน ไม่อยากให้ใครต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงถึง 4 คน และเสียชีวิต 1 คนเป็นคนก่อเหตุเอง การใช้ปืนจบปัญหาไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นเลย ก็อยากฝากไว้ด้วยค่ะ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้ข้อมูลว่า อาวุธปืนที่นายกนกพล ใช้ในการก่อเหตุนั้นเจ้าตัวพกติดตัวมาจากบ้าน เป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม. โดยปมปัญหาเกิดจากทั้งผู้ก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บเปิดร้านขายกางเกงยีนส์อยู่ในตลาดเดียวกัน และเปิดร้านอยู่ใกล้กัน และเคยมีปากเสียงกันหลายครั้งเนื่องจากไม่พอใจกัน

ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายว่านายชูศักดิ์ อำนาจมงคล อายุ 62 ปี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่ รพ.สุขสวัสดิ์

ส่วนทางด้านนาง สุขุมา หรือแหม่ม ภรรยาของนายชูศักดิ์ อำนาจมงคล วันนี้ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเพราะยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุอีกครั้งและจะต้องเชิญผู้ที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุมาสอบถามอย่างระเอียดอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป