ข้าราชการไทยข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้านอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ-ช่างทาสีร้อนกระโดดน้ำดับสลดขณะชำระร่างกายริมคลองบางกอกน้อย

ช่างทาสีร้อนกระโดดน้ำดับสลดขณะชำระร่างกายริมคลองบางกอกน้อย

เมื่อเวลา 18.30 น.
วันที่ 11 เม.ย.2565

พ.ต.ต.ชูชาติ เจิมขุนทด สวป.สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งชายพลัดตกน้ำคลองบางกอกน้อยเสียชีวิต บริเวณท่าน้ำวัดศรีสุดารามวรวิหาร ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยมูลนิธิรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่ิอาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นท่าน้ำบริเวณหลังวัด สภาพคลองกว้าง 20 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร จากการตรวจสอบริมตลิ่งพบสบู่ กระป๋องพลาสติก และกระเป๋าเป้ วางอยู่ จำนวน 1 ชุด ส่วนผู้จมหายไปในคลอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลางมหานาน 30 นาที จึงพบศพ ทราบชื่อต่อมาคือ นายวีระวัฒน์ ความสูงเนิน อายุ 44 ปี อาชีพรับจ้างทาสี จมน้ำเสียชีวิตในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ

สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ชื่อ นาย วรรณรพ ทองดอนน้อย อายุ 41 ปี เล่าว่า ผู้ตายมีภูมิลำเนา อยู่ในหลัง สน.ตลิ่งชัน แต่ชอบแวะมานั่งเล่นที่วัดศรีสุดารามวรวิหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก ก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวเดินไปซื้อสบู่มาจากร้านสะดวกซื้อ และกำลังจะทำการชำระล้างร่างกายบริเวณท่าน้ำ แต่จู่ๆ ก็บ่นว่าร้อนแล้วกระโดดลงน้ำไปกลางคลองต่อหน้าต่อตา พอลอยตัวขึ้นมาก็ไม่สามารถว่ายน้ำเข้าริมตลิ่งได้ คาดว่าอาจเป็นตะคริวจึงจมหายและขาดอากาศหายใจในที่สุด

เพื่อนที่กินนอนด้วยกัน ชื่อนาย บุญหนา ปัญญาแก้ว บอกว่า เค้ามาพักอยู่นี่ได้ 3 คืนแล้ว ถามว่ามาจากไหน เค้าบอกมาจาก หลัง สน.ตลิ่งชัน เค้าไม่อยากอยู่บ้าน ที่บ้านไม่มีใครแล้ว แม่ก็ตายแล้ว ไม่มีญาติที่ไหน มีเค้าคนเดียวนี่แหละ แต่ชื่อแม่เป็นเจ้าบ้าน มาอยู่นี่เช้าก็ ปัดกวาดใบไม้ ไปเอาข้าววัดมาแบ่งกินกัน ใครมีตังก็ซื้อเหล้ากัน แต่ตนไม่ได้กิน ตอนก่อนเกิดเหตุ ตนกวาดใบไม้ตอนเย็นตะกี้ ตนร้อนจึงไปอาบน้ำ พอกลับมาเห็น พี่รพ เค้าอยู่ ถามตาวัฒน์ล่ะ บอกโดดน้ำไปแล้ว ตนมาอยู่ก่อนเค้า 4-5 วัน เค้ามาอยู่ได้ 3 วัน ก็เคยคุยกะเค้านะ เค้าบอก เคยออกรถ KR มาคันนึง แล้วรถชน เหลือนิ้วเท้าอยู่ 4 นิ้ว ดูๆแล้วเค้าก็เป็นคนเฉื่อยๆ เซ่อๆซ่าๆ พอกินเหล้าไปเหมือนคนสติไม่เต็ม อาจจะเป็นเพราะโดนรถชนมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีพิษมีภัยกะใครนะ

ชาวบ้านย่านนี้ ชื่อคุณ จุ๋งจิ๋ง บอกว่า ตนออกมาให้ข้าวแมวที่วัดนี้เป็นประจำ มาถึงก็รู้ว่ามีคนจมน้ำ ก็คือเป็นคนเร่ร่อน คนจร ที่ไม่มีที่พัก จะมาอาศัยอยู่ที่ศาลานี้ แต่ตนก็เพิ่งเห็นคนนี้มา 2 วันเอง ปกติก็จะมีหลายคนนะ บางวันก็มานั่งกินเหล้ากัน จนต้องแจ้งตำรวจมา เพราะเสียงดังกัน มันเป็นที่วัดด้วย แต่ก็มีมาเรื่อยนะ ชุดเก่าไป ก็มีชุดใหม่เข้ามา สลับหมุนเวียนกันมา แต่ก็ไม่เคยมีคนตายแบบนี้ อาจจะมีบ้างที่ลอยมาจากที่อื่นแล้วมาขึ้นที่วัดนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะติดต่อญาติพี่น้องมาสอบปากคำ ก่อนมอบร่างให้นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรแล้วรับไปบำเพ็ญกุศล

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.