ข่าวทั่วไป

ลูกจ้างสาวสำนักงานจังหวัดประจวบฯผู้ต้องหาคดีโกงงบหลวง 40 ล้าน ซัดทอด 2 บิ๊ก ขรก.ร่วมเอี่ยวทุจริต ยันไม่หลบหนีหลังถูกปล่อยตัวชั่วคราวพ้นเรือนจำ

ลูกจ้างสาวสำนักงานจังหวัดประจวบฯผู้ต้องหาคดีโกงงบหลวง 40 ล้าน ซัดทอด 2 บิ๊ก ขรก.ร่วมเอี่ยวทุจริต ยันไม่หลบหนีหลังถูกปล่อยตัวชั่วคราวพ้นเรือนจำ

จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บุตรสาวของ อดีตกำนัน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯคนสนิทอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์รายหนึ่ง ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS เข้าบัญชีส่วนตัว และ พบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็คและการเบิกจ่ายรวม 165 ครั้ง ต่อมาศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ออกหมายจับเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 และไม่ให้ประกันตัวตั้งแต่การฝากขังผัดแรก เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563

ความคืบหน้า วันที่ 17 กันยายน พลตำรวจตรี สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียก พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส. สภ.เมือง ฯ ทีมพนักงานสอบสวน ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ประชุมเพื่อติดตามการทำสำนวนคดี และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มที่ห้องประชุม ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดย พล.ต.ฅ.สุรศักดิ์ แจ้งว่าได้ประสานนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์เพื่อขอสำเนาเอกสารหลักฐานในการทุจริต และผลสอบสวนเบื้องต้นจากคณะกรรมการระดับจังหวัดที่เสนอถึงกระทรวงมหาดไทยตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยและรับผิดชอบทางละเมิดด้วยการชดใช้ค่าเสียหายกับข้าราชการระดับสูงในสำนักงานจังหวัด 2 ราย

จากนั้นกำชับให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการสอบปากคำตัวบุคคลเพิ่มตามที่พนักงานอัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงครามร้องขอโดยใช้เวลาประชุม 30 นาที หลังจากพนักงานอัยการฯมีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา หอยทอง พ้นการคุมขังที่เรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากที่ผ่านมาได้ครบกำหนดฝากขังครั้งละ 12 วัน จำนวน 7 ผัด รวม 84 วัน

พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส. สภ.เมือง ฯ กล่าวว่า จากการติดตามพฤติกรรมของ น.ส.ขนิษฐา ผู้ต้องหา ที่บ้านพักในตำบลคลองวาฬ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับมารดา นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปีผู้ต้องหายืนยันว่าจะไม่หลบหนีตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต เนื่องจากคดีทุจริตงบประมาณ 40 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นข้าราชการระดับสูงอีก 2 รายเนื่องจากการเข้าระบบการโฮนต้องมีรหัสผ่าน และ หลังจากทีมพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนตามที่พนักงานอัยการให้สอบพยานเพิ่ม เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหา พร้อมมารดาและนางประชิต วงศ์ประภารัตน์ นักวิชาการการเงินและบัญชี ชำนาญการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการฯคาดว่าจะใช้เวลารวบรวมเอกสารไม่เกิน 15 วัน

“ สาเหตุที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนไม่ทัน ทำให้ผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาจากขั้นตอนการทำหนังสือขอเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายเช็คจากธนาคารแห่งหนึ่ง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับระบบการเบิกจ่ายเงินในระบบ GFMIS ขณะที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากพนักงานอับการฯให้สอบปากคำเพิ่ม น.ส.ขนิษฐา มารดา ลุงของผู้ต้องหา และ สามีนอกสมรสที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวใน สำนักงานจังหวัด เนื่องจากมีข้อสงสัยกรณีผู้ต้องหาโอนเงินจากการทุจริตเข้าบัญชีลุงและสามี สำหรับการสรุปสำนวนจาก 165 คดีที่มีการทุจริตต่อเนื่อง 165 ครั้ง พนักงานอัยการได้สั่งให้ทำสำนวนแยกแต่ละคดีโดยมีรายละเอียดตามข้อกล่าวหาให้ชัดเจน” พ.ต.ท.พิธี กล่าว

นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา รองประธานกรรมการธรรมาภิบาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยในระดับจังหวัดแจ้งว่าในเดือนตุลาคมนี้ จะครบกำหนดคืนเงินประกันสัญญาซึ่งเป็นเงินงบประมาณที่รับผิดชอบโดยงสำนักงานจังหวัด และที่ผ่านมามีการทุจริตเบิกจ่ายออกนอกระบบ จะทำให้มีผลกระทบกับผู้รับเหมาหลายรายที่ครบกำหนดเวลาได้รับเงินคืนในการวางเงินประกันสัญญามูลค่าหลายล้านบาท และทราบว่าที่ผ่านมามีการเจรจาเพื่อขอจ่ายคืนให้ผู้รับเหมารายย่อยไปก่อน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้เห็นชอบให้จังหวัดมีการโอนเงินจากหมวดรายจ่ายอื่นให้บริษัทรับเหมา

 

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ผลการสอบข้อเท็จจริงในระดับจังหวัดที่มีปลัดจังหวัดทำหน้าที่ประธานสอบสวน ได้ขอต่ออายุการสอบสวนจากผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เนื่องจากติดขัดในการติดตามข้อมูลในระบบการเงิน ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์ และหลังจากมีการสรุปข้อเท็จจริง จังหวัดได้แจ้งให้กระทรวงมหาดไทยรับทราบ เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและการรับผิดทางละเมิด

“ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันอยู่ในช่วงการพิจารณาแต่งโยกย้ายในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ อาจทำให้คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯ ล่าช้า เนื่องจากหัวหน้าสำนักงานจังหวัดคนปัจจุบัน ถือว่ามีคุณสมบัติเข้าข่ายได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด หากยังไม่ถูกตั้งกรรการสอบทางวินัยจากความบกพร่องและประมาทเลินเล่อในการกำกับการทำหน้าที่ควบคุมระบบการเงินในหน่วยงาน ” แหล่งข่าวกล่าว

พิสิษฐ์ รื่นเกษม / ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร 099 3396 444