สส.ร่วม ศอ.บต.และผู้นำตื่นตัวปราบยาเสพติดจริงจัง บุกควบคุมผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด พร้อมใจสร้างชุมชนสีขาว
นราธิวาส/ข่าว-ฮามีดะห์
สส.ร่วม ศอ.บต.และผู้นำตื่นตัวปราบยาเสพติดจริงจัง บุกควบคุมผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด พร้อมใจสร้างชุมชนสีขาว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ส.ค.68 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รอง หน.พรรคกล้าธรรม ในฐานะ สส.นราธิวาส 2 สมัย นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นายพงศ์เพชร มากเกื้อ นายอำเภอสุไหงปาดี พร้อมทีมงาน สส. ร่วมเดินทางมายังบ้านเลขที่ 47/2 ม.5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส หลังได้รับการประสานจากนายมะรอเซ๊ะ เจ๊ะดอเลาะ เพื่อขอความช่วยเหลือในการพิจารณา รับบุตรชาย คือ นายซาเล็ง เจ๊ะดอเลาะ อายุ 36 ปี ซึ่งป่วยมีอาการทางจิตเวช หลังจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งยาไอซ์และอื่นๆ ที่ขยายผลมาจากความเครียดหลังทรัพย์สินเป็นเงินกว่า 1 แสนบาทได้สูญหายจากกรณีเพื่อนได้ขโมยไป ซึ่งทางบิดาได้เคยนำตัวไปทำการรักษาแล้ว 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลบ้านสมเด็จ กทม.และโรงพยาบาลสงขลา โดยนายซาเล็ง ได้ผ่านการติดยาเสพติดมาแล้ว ประมาณกว่า 10 ปี ช่วงสมัยเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และทางบ้านได้พยายามส่งตัวไปรักษา แต่หลังจากหายเป็นปกติแล้ว นายซาเล็ง ได้หวนกลับมาเสพยาเสพติดอีกครั้ง จนปัจจุบันหากไม่ได้เสพยาเสพติดจะทำลายข้าวของที่บ้านเสียหาย แถมยังมีอาการทางจิตพูดคนเดียว และสื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวและชาวบ้านไม่เข้าใจ พูดไปคนละเรื่อยแบบเรื่อยเปื่อย
และในระหว่างที่ผู้นำศาสนานำคณะเดินทางไปยังบ้านพักของนายซาเล็ง ผู้มีอาการทางจิตเวช ได้พบนายซาเล็งกำลังขี่รถ จยย.ออกจากบ้านพัก ทางคณะะจึงได้ถือโอกาสจอดรถพูดคุยกับนายซาเล็ง แต่ไม่สามารถสื่อสารกับได้ โดยนายซาเล็ง ลักษณะเหมือนกับพูดกับตัวดองเรื่อยเปื่อยแถมไม่ได้จับใจความได้ ทางคณะจึงได้บอกกับนายมะรอเซ๊ะ และขออนุญาตนำบุตรชายไปทำการบำบัดและรักษาให้หายกลับคืนสู่สภาวะปกติ ซึ่งทางคณะได้รับตัวนายซาเล็ง ไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี ตามขั้นตอนเพื่อที่จะต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เมื่อมีอาการดีขึ้นตามลำดับจะมีการส่งตัวนายซาเล็ง ไปเข้าสู่ขบวนการบำบัดที่สถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมือง กรมการปกครอง กองร้อย อส.จ.นราธิวาสที่ 1 บ้านภราดร ซึ่งสถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นนราโมเดลแห่งเดียวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความพร้อมผู้ผ่านการบำบัดจะมีการติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อหายขาดจะสามารถนำวิชาชีพที่สอนไปประกอบอาชีพได้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางกระทรวงมหาดไทยมอบนโยบายในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง รวมไปถึงนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยุทธศาสตร์ สร้างความเข้าใจแห่งความร่วมมือกับวาระ 120 วันพืชกระท่อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นได้ว่าผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เห็นความสำคัญตั้งใจจะสร้างหมู่บ้านชุมชนเป็นหมู่บ้านสีขาว ทำการเอกซเรย์ผู้ติดยาเสพติดเพื่อนำไปทำการบำบัดให้หายขาด และไม่เป็นภาระของบิดามารดาและชุมชน
ด้านนายมะรอเซ๊ะ เจ๊ะดอเลาะ บิดาของนายซาเล็ง กล่าวว่า ช่วงที่บุตรชายอยู่กับเพื่อนหลายคนสมัยเรียนหนังสือที่กรุเทพฯ เงินของนายซาเล็ง จำนวนกว่า 1 แสนบาทได้หายไป ทำให้นายซาเล็ง เกิดความเครียดจึงได้เข้าไปยุ่เกี่ยวกับยาเสพติดโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อก่อนบุตรชายก็ไม่สูบบุหรี่ชอบทำลายข้าวของภายในบ้านนำออกมาทิ้ง ซึ่เริ่มติดยาเสพติดมานานกว่า 10 ปี
ด้านนายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. กล่าวว่า ตอนนี้ทางภาครัฐมีนโยบายทางกระทรวงมหาดไทย เร่งขับเคลื่อนเต็มที่เต็มรูปแบบ กระบวนการที่ผู้เสพกลับคืนสู่สังคมกลับสู่ครอบครัวอย่างปกติสุข ต้องผ่านขบวนการขัดเกลาบ่งเพาะ ทำในเรื่องของการสั่งสอนอะไรต่างๆ สำหรับในวันนี้จะเห็นได้ว่าเรามากันหลายภาคส่วน มันมีความมุ่งมั่นตั้งใจทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องของส่วนราชการทากระทรวงมหาดไทย ทางมิติทางการเมืองทั้งผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นภาคประชาสังคม ที่เราเห็นความมุ่งมั่นแบบไร้รอยต่อประสานกันในเรื่องของยาเสพติด โดยเฉพาะปัญหาพืชกระท่อมให้เห็นเชิงประจักษ์ในระยะเวลา 120 วัน ต้อขอบคุณทุกภาคส่วน
///////////////////////////////// 1 สิหาคม 2568