ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

ปทุมธานี – เจ้าอาวาสวัดหว่านบุญเปิดใจไม่คิดว่าพระลูกวัดจะร่วมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ

ปทุมธานีเจ้าอาวาสวัดหว่านบุญเปิดใจไม่คิดว่าพระลูกวัดจะร่วมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ

วันที่ 5 ส.ค.2568 จากกรณี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก.เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ


โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายสุรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี หรือ พระสุรัตน์ พระลูกวัดรายหนึ่งของ วัดหว่านบุญ ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อฟอกเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” โดยสามารถจับกุมตัวได้ขณะเจ้าตัวกำลังออกเดินบิณฑบาตอยู่ในพื้นที่ ก่อนพาตัวมาทำการลาสิกขาจากความเป็นพระที่วัดหว่านบุญ ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัดตรวจสอบประวัติทราบว่า นายสุรัตน์ เดิมทีเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือ กลุ่มคนคนชาติพันธุ์ทางภาคเหนือ ก่อนมาบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้นานกว่า 10 ปี ส่วนสาเหตุที่ทำให้วันนี้เจ้าตัวต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากมีการตรวจสอบพบบัญชีธนาคารของนายสุรัตน์ ถูกนำไปใช้ในการรับโอนเงินค่ายาเสพติดของเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวให้การภาคเสธอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีคนมาทำบุญที่วัดซึ่งเป็นคนกลุ่มชาติพันธุ์เช่นกัน และได้มาขอยืมบัญชีไปใช้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ทำผิดกฎหมาย


จากการสอบถาม พระมหาสมโชค ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดหว่านบุญ กล่าวว่า ตนตกใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับพระลูกวัดไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเพราะเขาปฏิบัติดีและปฏิบัติชอบ เดิมทีท่านบวชที่อื่นและโยมพี่ที่สนิทกับท่านก็มาฝาก ให้ท่านมาจำพรรษาที่นี่ ตนก็รับมาอยู่ที่นี่ได้ 10 กว่าปีแล้วกิริยามารยาทเรียบร้อยอยู่ในกฎเกณฑ์ของทางวัดเป็นอย่างดี พอมาเจอเหตุการณ์นี้ตนก็ตกใจเพราะว่าท่านเป็นพระที่ดีรูปนึงท่านมาช่วยกิจทางวัดได้ ตนก็อยากจะฝากชาวพุทธให้รู้จักแยกแยะ กรรมมันเป็นเรื่องของตัวบุคคลเฉพาะบุคคลใครทำกรรมดีก็ได้รับผลดีตอบแทน ใครทำความชั่วก็ได้รับโทษไม่มียกเว้นไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นพระหรือ ฆราวาสก็ตาม ขอให้ทุกคนแยกแยะทุกสังคมก็จะมีทั้งคนดีและไม่ดีขนาดพระก็เป็นหนึ่งในสังคมที่อยู่ในประเทศไทยมันก็มีทั้งดีและไม่ดีคละกันไป อย่าให้ปัญหาหรือการกระทำชั่วของคนบางคนเป็นอุปสรรคในการสร้างบุญบารมีของพวกเรา