ข่าวทั่วไป

กาญจนบุรี – ทหารเมียนมา นำกำลัง30 นาย ตรึงกำลังช่องทางเกษตร 9 ประท้วงไทย ขอให้ไทยปิดร้านค้า แนวชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์

กาญจนบุรี 14-10-63 ทหารเมียนมา นำกำลัง30 นาย ตรึงกำลังช่องทางเกษตร 9 ประท้วงไทย ขอให้ไทยปิดร้านค้า แนวชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์

เมื่อเวลา 13.00 น ของวันที่ 13 ตุลาคมพ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (กองกำลังสุรสีห์) ได้รับรายงานว่า ทหารเมียนมาพร้อมอาวุธครบมือกว่า 30 นาย ตรึงกำลังบริเวณชายแดน ชองทาง ซอยเกษตร 9 ด่านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีจึงได้รายงาน พลตรี.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชากรกองกำลังสุรสีห์ทราบ
พร้อมได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อมานายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคีบการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.ต.อ.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ ผู้กำกับสถานตำรวจภูธรสังขละบุรี ร.ต.อ.โชคชัย แต่เจริญ รองสารวัตรป้องกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.พรชัย ใครหอม หัวหนาหน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ประจำพื้นที่ 4 ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายเมียนมา

ซึ่งนำโดย พ.ต.อ่าวเยซัน รักษาการผู้บังคับการพัน.ร..32 ทหารเมียนมาบริเวณ หน้าด่านชายแดนจุดผ่อนปรนชั่วคราว ช่องทางด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งทางฝ่ายไทยได้ขอทราบเหตุผลที่ทางเมียนมานำกำลัง ไปตรึงบริเวณช่องทาง ซอยเกษตร 9 โดยฝ่ายเมียนมาได้ให้เหตุผลของการว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการร้านค้าชาวเมียนมา ซึ่งเปิดเป็นร้ายขายเหล้า บุหรี่และกล้วยไม้ ซึ่งอยู่ในเขตประเทศเมียนมา ติประเทศไทย
ได้มาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากฝ่ายไทยได้นำลวดหนามไปปิดกันบริเวณดังกล่าวไม่ให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชาวไทยเข้าไปซื้อของ ทำให้ไม่มีรายได้
แต่ขณะที่ผู้ประกอบการชาวไทยในบริเวณดังกล่าวกลับมาเปิดร้านค้า ขายสินค้าได้ตามปกติ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการชาวเมียนมา จึงอยากให้ทางการไทยดำเนินการปิดร้านค้าบริเวณรอบๆด้านเจดีย์สามองค์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ซี่งในเวลาต่อมาฝ่ายไทยโดยนายปกรณ์ กรรณวัลลี รับปากจะดำเนินการปิดร้านค้าทั้งหมดให้ภายในวันนี้ ( 14 ต.ค.) ทำให้ฝ่ายเมียนมาพอใจผลของการหารือ ต่อมาจึงได้มีการสั่งถอนกำลังทหารเมียนมา ทั้ง30 นายกลับที่ตั้ง

ขณะที่ผู้ประกอบการกว่า 30 คน ที่เฝ้าสังเกตการณ์ การเจรจาบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ต่างแสดงความไม่พอใจเมื่อรู้ผลการเจรจา พร้อมตั้งคำถามว่าทำไม่ฝ่ายเราต้องยอมปิดร้านค้า และทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายเมียนมา ทั้งๆที่ร้านค้าตั้งอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างได้รับความเดือดร้อนมาตลอด ติดต่อกันมานานหลายเดือน ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ตอนเกิดเหตุการณ์โควิตระบาดในไทยผู้ประกอบการไทยต้องปิดร้านค้า แต่ร้านขายเหล้าบุหรี่ และร้านกล้วยไม้ ซึ่งอ้างว่าตั้งอยู่ในประเทศเมียนมา กลับขายสินค้าให้คนไทยได้อย่างสบายไม่เห็นมีหน่วยงานไหนไปสั่งปิด ที่สำคัญทุกวันนี้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่าเช่าที่ ที่ต้องขายของเพราะไม่มีรายได้ทางอื่น แม้ทุกวันนี้จะขายได้วันละ 200-300 ก็ต้องยอม เพื่อหาเงินให้ลูกไปโรงเรียน ถ้าโดนสั่งปิดถือว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ภาระค่าใช้จ่ายใครจะมาช่วยเหลือ
ในเวลาต่อมา นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี ได้เชิญผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณด่านเจดีย์ทั้งหมด มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยเสนอว่าในระหว่างนี้ อาจจะขอใช้พื้นที่เกาะกลางถนน บริเวณก่อนถึงเจดีย์สามองค์ให้ผู้ประกอบการใช้เป็นที่ขายของชั่วคราว เพื่อลดความเดือดร้อน ซึ่งผู้ประกอบการบางส่วนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าคงไม่สะดวกเพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นเฟอร์เจอร์ไม้ เครื่องประดับ อัญมณี การที่จะนำมาขายในเต้นท์ กลางถนนผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระในการขนย้าย ความปลอดภัย รวมทั้งการเก็บรักษา หากเป็นไปได้อยากขายในสถานที่เดิมมากกว่า เพราะมีความปลอดภัยใน
การเก็บรักษาสินค้า..ซึ่งพวกตนไม่เข้าใจทำไม เราต้องทำตามความต้องการของเมียนมา

เกษร เสมจันทร์ ผู้สื่อข่าว จ .กาญจนบุรี รายงาน