ข่าวทั่วไป

เชียงราย โกบอล รันนิ่งซัมมิท ครั้งที่ 2 ฝ่าวิกฤตการจัดงานด้วยการวิ่งยุค New Normal พร้อมเปิดตัว Asia Label ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอเชีย ยูเมะพลัสเชียงราย 21.1 มาราธอน 2020 ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2563 ที่จังหวัดเชียงราย

เชียงราย โกบอล รันนิ่งซัมมิท ครั้งที่ 2 ฝ่าวิกฤตการจัดงานด้วยการวิ่งยุค New Normal พร้อมเปิดตัว Asia Label ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอเชีย ยูเมะพลัสเชียงราย 21.1 มาราธอน 2020 ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2563 ที่จังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือที่เส็บ การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ บริษัท อีซี่บาย จำกีด (มหาชน) สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย และบริษัท มูฟเอเชีย จำกัด ผนึกกำลังร่วมกันจัดการประชุมวิ่งมาราธอนระดับโลก ครั้งที่ 2 “เชียงราย โกบอล รันนิ่ง ซัมมิท 2020” (Chiang Rai Global Running Summit 2020) และงานวิ่ง “ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020” ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 63 ที่จังหวัดเชียงราย

เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2563 นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมวิ่งมาราธอนระดับโลก “เชียงราย โกบอล รันนิ่ง ซัมมิท 2020” (Chiang Rai Global Running Summit 2020) และงานวิ่ง “ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020” ในคอนเซ็ปต์ NEX NORMAL “VIRUS DISRUPTION ERA” เป็นวันแรก โดยมีวิทยากรผู้ทรงความรู้ด้านการจัดการแข่งขันกีฬามวลชนทั้งไทยและต่างชาติ มาร่วมเสวนาผ่านออนไลน์และออฟไลน์คอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้จัดการแข่งขัน ผู้สนับสนุนภาคเอกชน เอเยนซี่ ผู้ผลิตสินค้าและอุตสาหกรรม รวมกว่า 200 คน ที่โรงแรม เดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี เชียงราย ถนนไกรสรสิทธิ์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงว่า จังหวัดเชียงรายมีความพร้อมและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Global Running Summit และงานวิ่งเชียงราย 21.1 มาราธอน เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยความสำเร็จในการจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ได้รับเสียงชื่นชมและเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น พร้อมยังช่วยสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งงานวิ่งในปีนี้ นักวิ่งทั้ง 5,000 คน ที่มาร่วมงานจะได้สัมผัสความสวยงามและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย ควบคู่ไปกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอย่างเต็มอิ่ม ในฐานะที่จังหวัดเชียงรายเป็น Iconic Marathon Event ที่มีประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดร่องขุ่น พระธาตุดอยตุง อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ เป็นต้น ภายใต้มาตรฐานการจัดงานแบบ New Normal ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและการปิดถนนคาร์ฟรีเดย์เต็มรูปแบบ 100 % ช่วง 1 กิโลเมตร ก่อนเข้าเส้นชัย

ทางด้าน ดร.นพ ไพโรจน์เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูกิจกรรมทางกายของคนไทยผ่านการจัดวิ่ง ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020 ในครั้งนี้ จะเป็นการจัดงานในรูปแบบ New Normal Race โดยยึดตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ศบค. 5 มาตรการหลัก ได้แก่ ลดความแออัด รักษาระยะห่าง ล้างมือทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส สวมหน้ากากอนามัย (เข้าและออกงาน) รวมถึง มีการลงทะเบียนเพื่อจัดกิจกรรม และยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคผ่าน Application ไทยชนะ และแพลตฟอร์ม Spirit ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครจนจบกิจกรรม ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ ที่มีความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เป็นที่ตั้งสูงสุด”

ด้าน พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวด้วยว่า การจัดงานวิ่งในเอเชียได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีการจัดงานวิ่งปีละกว่า 1,500 งาน และนำมาซึ่งเม็ดเงินหมุนเวียนปีละเกือบ 1 แสนล้านบาท สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่า อุตสาหกรรมวิ่งในเอเชียจะเติบโตสู่ระดับโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ จึงได้ร่วมมือกับสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) เตรียมยกระดับมาตรฐานการจัดงานวิ่งในเอเชีย ด้วยการทำ Asia label เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเอเชีย ซึ่งเป็นการแบ่งมาตรฐานการวิ่งเป็นระดับ Platinum Gold silver และ Bronze แบบเดียวกับ World Athletics พร้อมเพิ่ม Safety Hygiene หรือมาตรการด้านสุขอนามัยเข้าไปด้วย ซึ่งทั้งหมดจะมีมาตรฐานการจัดงานเทียบเท่าระดับโลกแต่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

ขณะที่การวิ่ง ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020 จะมีการออกสตาร์ทในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 ที่วัดร่องขุ่น และเข้าเส้นชัยที่บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ถนนธนาลัย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีการแข่งขันเป็น 2 ระยะทาง คือ ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และมินิมาราธอน 10 กม. ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทางเฟชบุ๊ก Chiangrai21.1(www.facebook.com/Chiangrai21.1)

เครดิต / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ทีมตระเวนข่าว ทั่วไทยนิวส์ รายงาน