ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

สุดสะเทือนใจ คุณตา วัย 86 ไร้บ้านถูกทอดทิ้ง หลังลูกชายเสียชีวิต ลูกสะใภ้ชี้แจงเหตุจำใจ

สุดสะเทือนใจ คุณตา วัย 86 ไร้บ้านถูกทอดทิ้ง หลังลูกชายเสียชีวิต ลูกสะใภ้ชี้แจงเหตุจำใจ
วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางกัญญดากร เรืองฤทธิ์ รองประธานหมู่บ้านพฤกษา 15 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ว่าพบชายชราถูกทอดทิ้ง ขนของพะรุงพะรังมาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาริมบึง สวนสาธารณะกลางหมู่บ้าน บรรยากาศที่ศาลาริมบึงเต็มไปด้วยชาวบ้านพยายามช่วยเหลือนำอาหารและน้ำดื่มมาให้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบ นายกอบชัย ผ่องวิถี อายุ 86 ปี นั่งเหม่อลอยบนศาลา รอบตัวมีเสื้อผ้าและข้าวของใช้ส่วนตัวกองระเกะระกะ แววตาเศร้าหมองเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ขณะที่นิติบุคคลหมู่บ้านกำลังช่วยพูดคุยสอบถามเพื่อหาทางช่วยเหลือ
คุณตากอบชัย เล่าหลงๆลืมๆ ว่า ย้ายมาอยู่บ้านในหมู่บ้านพฤกษา 15 กับลูกชายและลูกสะใภ้มากว่า 20 ปี แต่เมื่อปี 66 ลูกชายเสียชีวิต ด้วยอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน หลังงานศพจบลง ลูกสะใภ้บอกว่าไม่สามารถดูแลได้ต่อ จึงติดต่อให้ศูนย์พักพิงมารับตัวไปอยู่ โดยเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด เมื่อไปอยู่ตนรู้สึก มันลำบาก กินอยู่ก็ไม่เหมือนบ้าน ตนอยู่ไม่ได้ อยู่เกือบครึ่งปี ทนไม่ไหว เลยนั่งแท็กซี่กลับมา ที่กลับมาอยู่ที่ศาลานี้ เพราะคุ้นเคยและยังมีเพื่อนบ้านที่เห็นใจ


ส่วนทางด้านลูกสะใภ้ กล่าวว่า บ้านนี้สามี ซื้อเมื่อปี 2547 โดยตนเป็นคนผ่อนมาโดยตลอด ต่อมาสามี ลูกชายของคุณตาได้ขายต่อให้ตน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นชื่อตน โดยสามีแจ้งว่าต้องการนำเงินส่วนต่างไปใช้หนี้สิน เนื่องจากสามีไม่ได้ทำงานและไม่มีลูกด้วยกัน ใช้เงินกันคนละกระเป๋า ตนจึงไม่ทราบว่าสามีก่อหนี้ไว้ที่ไหนบ้าง
ลูกสะใภ้ กล่าวต่อว่า หลังแม่สามีเสียชีวิต สามีกับพ่อซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่แล้วก็ยิ่งไม่คุยกัน เนื่องจากพ่อสามีเป็นคนชอบเล่นหวย ทำครอบครัวลำบากมาก พอแม่สามีเสีย สามีก็ยิ่งไม่โอเคกับพฤติกรรมของพ่อ จนทำให้ทั้งคู่ไม่พูดคุยกันมาโดยตลอด ในระหว่างที่ตนอาศัยอยู่ พ่อสามีป่วยและมีนัดหมออยู่เรื่อยๆ แต่เพราะทั้งคู่ไม่คุยกัน พ่อสามีก็จะมาบอกให้ตนช่วยพาไปโรงพยาบาลตามแพทย์นัด แต่ตนเองมีภาระต้องทำงาน ไม่สามารถพาไปได้ตลอด บางครั้งต้องเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงพยาบาล
ลูกสะใภ้ยังเล่าด้วยว่า ในระหว่างจัดงานศพของสามี ซึ่งเป็นคืนที่สาม พ่อสามีที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วเกิดอาการช็อกและหมดสติ จึงต้องรีบเรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลสมุทรปราการ ต่อมาแพทย์แจ้งว่าอาการหนัก และสอบถามว่าจะยินยอมให้ทำการปั๊มหัวใจหรือไม่ ด้วยความกังวลว่าหากคุณตาฟื้นขึ้นมาอาจไม่เหมือนเดิม และประกอบกับพ่อสามีเองก็ไม่มีญาติ ลูกชายก็เสียไปแล้ว เกรงว่าจะไม่สามารถดูแลได้หากป่วยติดเตียง ตนจึงยอมเซ็นยินยอมรักษา
เวลาผ่านไป 12 วัน พ่อสามีมีอาการดีขึ้น แพทย์จึงให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน แต่ระหว่างพักฟื้น พ่อสามีเป็นผู้ชายตัวใหญ่และค่อนข้างหนัก เวลาจะอาบน้ำหรือต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม ตนต้องเรียกน้องชายมาช่วยยกลงมาด้านล่างเพื่ออาบน้ำ แต่กลางคืนพ่อสามีก็มักถอดแพมเพิส ทำให้เลอะเทอะทั้งบ้าน ตนทนไม่ไหวจริงๆ เลยตัดสินใจโทรติดต่อบ้านพักคนชราย่านนวมินทร์ให้มารับไป โดยแจ้งว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นคนดูแลทั้งหมด
ตลอดระยะเวลาที่พ่อสามีพักอยู่บ้านพักคนชรา ตนเป็นคนจ่ายค่าดูแลเดือนละกว่า 10,000 บาทเป็นประจำ รวมถึงค่าแพมเพิสก็เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา ตนก็พยายามวิดีโอคอลสอบถามอาการอยู่ตลอด เพราะไม่สะดวกไปเยี่ยม เนื่องจากถ้าไปเยี่ยม พ่อสามีก็จะโวยวายขอให้ย้ายกลับมาอยู่บ้าน แต่ตนเองต้องทำงานจึงไม่สามารถรับกลับมาดูแลได้
จนช่วงหลังๆ ทางศูนย์บ้านพักคนชราโทรมาแจ้งบ่อยมากว่าคุณพ่อสามีไม่สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ มักจะป่วนคนอื่น ขอให้ช่วยรับกลับไปดูแลต่อ กระทั่งวันหนึ่งก็ได้รับข่าวว่าคุณพ่อสามีหนีออกมาจากศูนย์แล้ว
อย่างไรก็ตาม คุณตาเองยืนยันว่าจะไม่กลับไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง ทางประธานหมู่บ้านจึงได้สอบถามว่าลูกสะใภ้หรือชาวบ้านจะรับดูแลได้ไหม แต่เพราะคุณตาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หากไปอยู่ก็จะเป็นภาระของคนอื่น แต่หากส่งไปอยู่ศูนย์พักพิงของทางราชการ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่าย ลูกสะใภ้ก็ยืนยันว่าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด หากคุณตายินยอมไปอยู่
ทั้งนี้ ทางนิติบุคคลหมู่บ้านไม่สามารถให้คุณตาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาริมบึงนี้ได้ จึงพยายามสอบถามคุณตาว่ามีญาติคนอื่นหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อญาติคนอื่นได้เลย หากพบญาติจะติดต่อให้มารับไปดูแลและฝากสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางดูแลให้เหมาะสมต่อไป


********************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ