ศอ.บต. เดินหน้านโยบาย 120 วันกวาดล้างพืชกระท่อมชายแดนใต้ ร่วมมือโรงเรียนอิสลามบูรณะโต๊ะนอ ปลูกฝังเยาวชนห่างไกลยาเสพติด จัดกิจกรรมกีฬาสีภายใน ดึงเด็กใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์
นราธิวาส/ข่าว-ฮามีดะห์
ศอ.บต. เดินหน้านโยบาย 120 วันกวาดล้างพืชกระท่อมชายแดนใต้ ร่วมมือโรงเรียนอิสลามบูรณะโต๊ะนอ ปลูกฝังเยาวชนห่างไกลยาเสพติด จัดกิจกรรมกีฬาสีภายใน ดึงเด็กใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์
วันนี้ (27 สิงหาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังคงเดินหน้าอย่างจริงจังตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อผลักดันวาระ “120 วันกวาดล้างพืชกระท่อม” ให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยโครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้
ทั้งนี้ โรงเรียนอิสลามบูรณะโต๊ะนอ ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีภายในโรงเรียน มุ่งหวังให้เด็กนักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ผ่านการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ซึ่งถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดทุกชนิด โดยเฉพาะพืชกระท่อมที่มักแพร่ระบาดและเข้าถึงได้ง่ายในกลุ่มเยาวชน
นอกจากนี้ โรงเรียนยังเน้นย้ำถึงบทบาทของสถาบันการศึกษาในการร่วมมือกับภาครัฐและศอ.บต. ในการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อโทษและพิษภัยของยาเสพติด เพื่อให้เยาวชนเติบโตอย่างมีคุณภาพ และสร้างสังคมที่ปลอดภัยในอนาคต
นายมุณีรุดดิน หะยีอับดุลเลาะ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอิสลามบูรณะโต๊ะนอ กล่าวว่า ศาสนาอิสลามเป็นแนวทางชีวิตที่กำหนดชัดเจนว่ามุสลิมต้องเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว และพระองค์ทรงกำหนดสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งสิ่งที่ทำแล้วเกิดผลบุญก็คือความดี แต่หากทำในสิ่งต้องห้ามก็ถือว่าเป็นบาปติดตัว ดังนั้น มุสลิมจึงไม่มีคำว่า “ถ้า” ต่อสวรรค์หรือนรก แต่เชื่อมั่นว่าสวรรค์และนรกมีอยู่จริง
หนึ่งในหลักปฏิบัติสำคัญ คือ “การละหมาดวันละ 5 เวลา” ซึ่งเป็นการเตือนสติให้ห่างไกลจากความชั่วร้ายในทุกๆ วัน หนึ่งในสิ่งที่อิสลามถือว่าเป็นความชั่วร้ายก็คือยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นกระท่อม บุหรี่ไฟฟ้า หรือแม้แต่บุหรี่ทั่วไป ศาสนาก็ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม การละหมาดจึงเป็นเกราะคุ้มกันทางจิตใจที่ช่วยให้เยาวชนและลูกหลานอยู่ห่างไกลยาเสพติด
นอกจากนี้การถือศีลอดก็เป็นอีกการฝึกอบรมตนเอง เพื่อควบคุมความปรารถนา ห้ามตนเองจากการทำบาปในช่วงเวลาตั้งแต่เช้าจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งรวมถึงการห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ศาสนายังสอนให้จ่ายซะกาตเพื่อขัดเกลาจิตใจและช่วยเหลือผู้อื่น และยังมีการทำฮัจญ์ที่เป็นการรวมเอาหลักปฏิบัติทั้งหมดไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อทดสอบความศรัทธาและความอดทนของมุสลิมอย่างแท้จริง
เมื่อปฏิบัติตามหลักศาสนาเช่นนี้แล้ว คำถามคือ “จะมีเหตุผลอะไรที่มุสลิมยังต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่หรือยาเสพติด” เพราะแท้จริงแล้วศาสนาได้สอนให้ห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเชิงปฏิบัติ ยังมีความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน รวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่จะเข้ามาจัดกิจกรรม อบรม และให้ความรู้แก่ประชาชน เดือนละครั้ง เทอมละครั้ง หรือปีละครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ควบคู่กับการจัดกิจกรรมกีฬาและกีฬาสีในโรงเรียน เพื่อดึงเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด
โดยทั้งหมดนี้สอดคล้องกับนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ที่มุ่งเน้นการรณรงค์เชิงรุก ไม่เพียงแต่สกัดกั้นการแพร่ระบาด แต่ยังปลูกฝังความตระหนักรู้ผ่านหลักศาสนาและการอบรมเชิงปฏิบัติ เพื่อให้สังคมโดยเฉพาะเยาวชนเติบโตขึ้นอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ