ข่าวทั่วไป

สระแก้ว- ดับกลางกองไฟ 2 ตายาย จุดตะเกียงแท้ๆ

สระแก้ว- ดับกลางกองไฟ 2 ตายาย จุดตะเกียงแท้ๆ ”

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.ท.มนตรี ชูยิ่ง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปางสีดา อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 22.24 น.วันที่ 7 ม.ค.63 พ.ต.ต.จักรี เฉิดฉิ้ม สว.(สอบสวน) สภ.ปางสีดา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้จาก นายไกรเลิศ เจืองสา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.ท่าแยก อ.เมืองว่า บ้านไม่มีเลขที่ อยู่ในบริเวณ บ้านเลขที่ 94 ม.10 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้ว จากนั้นได้แจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯหน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว เดินทางไปร่วม ตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบสภาพบ้านถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 2 คน ทราบชื่อคือ 1.นายนิติ นามท้าว อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.10 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว 2. น.ส.อำพร จันทร์สมดี อายุประมาณ 58 ปี ที่อยู่เดียวกันกับนายนิติฯ

 


จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้ความว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ผู้เสียชีวิตได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านว่า “ช่วยด้วยไฟช็อต” จากนั้นเพื่อนบ้านได้ออกมาดูปรากฏว่าไฟได้ลุกไหม้บ้านเป็นจำนวนมากแล้วไม่สามารถเข้าไปช่วยชีวิตทั้ง 2 คน ได้ทันเป็นเหตุให้ถูกไฟคลอกประกอบกับมีควันไฟทำให้ขาดอากาศหายใจแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพื่อนบ้านและชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านก็ได้ช่วยกันดับไฟจนสนิทแล้วก็รอเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป
พ.ต.ต.จักรี. เฉิดฉิ้ม สว.(สอบสวน) สภ.ปางสีดา พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี จากการสืบสวนสอบสวน นางฉวีพรรณ หินแก้ว อายุ 60 ปี น้องสาวผู้ตาย ทราบว่า นายนิติฯ และนางอำพรฯ ผู้ตาย เป็นสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียน มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุประมาณ 20 ปี ทำงานก่อสร้างอยู่ต่างจังหวัด ผู้ตายทั้งสองอยู่กินฉันท์สามีภรรยามาประมาณ 30 กว่าปี ผู้ตายทั้งสองพักบ้านพักที่เกิดเหตุ ประมาณ 3 ปี ลักษณะบ้านที่เกิดเหตุบ้านไม้ ยกพื้นสูง0.5 เมตร กว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร สูง 4 เมตร ฝาบ้านเป็นไม้อัดและสังกะสี เข้าออกประตูหน้าบ้านทางเดียว ผู้ตายทั้งสองไม่ได้ทำประกันชีวิต มีแต่ฌาปนกิจหมูบ้าน นายนิติฯ ผู้ตาย มีอาชีพรับจ้างสานแข่งปลาทู และรีบจ้างทั่วไป ส่วนนางอำพรฯ ผู้ตายไม่ได้ประกอบอาชีพ และมีร่างกายไม่แข็งแรง เวลาเดินต้องมีคนช่วยพยุงหรือใช้ไม้เท้า มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ได้พักรักษาตัวที่ รพ.4 วัน จนถึงวันเกิดเหตุได้กลับมาพักหลังเกิดเหตุ

จากการสอบถามพยานบ้านใกล้บ้านพักของผู้ตาย ทั้งสองด้าน ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ ยินเสียงนายนิติฯ ผู้ตาย ตะโกนว่าไฟช็อต ช่วยด้วย พยานจึงออกมาดูพบว่าไฟได้ไหม้บ้านไปมากแล้วและไม่สามารถช่วยเหลือได้ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายทั้งสองไม่มีปากเสียงกันหรือทะเลาะกัน ซึ่งได้เข้านอนตามปกติ เชื่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายทั้งสองเกิดจากไฟไหม้ จากตะเกียงน้ำมันที่จุดในบ้านพัก ประกอบตามการตรวจที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐานสระแก้ว และผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ใด และมีผู้ที่จะหมายปองเอาชีวิต หรือทรัพย์สินแต่อย่างใด

นายยุทธนา พึ่งน้อย / ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว