ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

อ่างทอง – พาไปเที่ยวกราบไหว้เจดีย์อัฐิพระราชมนูทหารเอกพระนเรศวร ที่บรรจุอัฐิเป็นเจดีย์รูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) สมัยอยุธยาตอนปลาย ที่วัดช้าง (ช้างให้) เป็นขุนศึกและสมุหพระกลาโหมคนสำคัญในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

อ่างทอง พาไปเที่ยวกราบไหว้เจดีย์อัฐิพระราชมนูทหารเอกพระนเรศวร ที่บรรจุอัฐิเป็นเจดีย์รูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) สมัยอยุธยาตอนปลาย ที่วัดช้าง (ช้างให้) เป็นขุนศึกและสมุหพระกลาโหมคนสำคัญในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันที่ 4 ก.ค. 68 พาไปเที่ยวชมกราบไหว้ เจดีย์อัฐิ พระราชมนู ทหารเอก ของสมเด็จพระนเรศวรฯ ที่วัดช้าง (ช้างให้) ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เป็นเจดีย์รูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) สมัยอยุธยาตอนปลาย บรรจุอัฐิพระราชมนู ทหารเอกคู่ใจของสมเด็จพระนเรศวรฯ พร้อมด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิภรรยาพระราชมนู
พระราชมนู นายกองทัพหน้า ชื่อบุญทิ้ง นายกองเลือดเดือดในสมัยอยุธยา พ.ศ.2128 มีการรบที่ทุ่งบางแก้ว พระราชมนู แม่กองระวังหน้า ได้ใช้วัดช้าง (ช้างให้) เป็นที่ตั้งทับ โดยส่งทหารออกลาดตระเวนดูกองกำลังของกองทัพพระเจ้าเชียงใหม่ ที่เป็นแม่ทัพหน้าพม่า ซึ่งเป็นการรบแบบกองโจรครั้งแรก ของประวัติศาสตร์ชาติไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำกองทัพไทยได้รับชัยชนะ พระราชมนูนั้น เคยรับพระราชบัญชาให้ไปตีเมือง ๆ หนึ่ง (ปัจจุบันอยู่ในเขตพม่า) ตอนนั้นองค์ดำเกรงว่าทัพน้อยของพระราชมนูจะไม่อาจเอาชัย จึงส่งทัพหลวงออกตามไปช่วย ปรากฏว่าเมื่อทัพหลวงไปถึงเมืองนี้ก็แตกเสียแล้ว ทัพหลวงไม่ต้องเข้าช่วยแต่อย่างใด


เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงได้ปูนบำเหน็จให้พระราชมนูขึ้นเป็น เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี ที่สมุหพระกลาโหม พระราชทานพานทอง น้ำเต้าทอง เจียดทองซ้ายขวา กระบี่ฝักทอง และเครื่องอุปโภคต่าง ๆ หลังจากเปลี่ยนแผ่นดิน พระราชมนูได้ลาออกจากราชการ ในตำแหน่งพระสมุหกลาโหม แล้วบวชอยู่ที่วัดช้าง(ช้างให้) จนสิ้นอายุขัย ทางคณะศิษย์ และชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิ พระราชมนู รูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) ตั้งไว้จนมาถึงปัจจุบันนี้