ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ร้องทุกข์สื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตกจากที่สูงแล้วไปโรงพยาบาลไม่ได้รับการรักษาจนทำให้เสียชีวิต

ร้องทุกข์สื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตกจากที่สูงแล้วไปโรงพยาบาลไม่ได้รับการรักษาจนทำให้เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางอุมา บุชลี อายุ 52 ปี ว่า ลูกชายของตนพลัดตกบันได้หัวฟาดพื้นอย่างรุนแรงและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ทางหมอรักษาแจ้งว่า อาการปกติไม่มีอะไรน่าห่วง จากนั้นตนไม่สบายใจจึงได้ขอหมอที่รักษาให้ลูกชายนอนดูอาการก่อน 1 คืน แต่พยาบาลของโรงพยาบาลไม่ให้นอนและบอกว่า ไม่ใช่ที่สำหรับนอน อีกทั้งยังกล่าวหาว่า ลูกชายเมาเหล้ามา เดี๋ยวสร่างเมาอาการดีขึ้น จนกระทั่งไม่ถึง 1 วัน ต้องพาลูกชายส่งโรงพยาบาลด่วนรอบที่ 2 อีกครั้ง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากผลสรุปของหมอชันสูตรศพแจ้งว่า สาเหตุลูกชายเสียชีวิตมาจากศรีษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง กระโหลกร้าว มีเลือดคลั่งในสมอง เป็นเหตุให้ลูกชายเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเข้าร้องทุกข์สื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย


ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดวัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้พบกับ นางอุมา บุชลี อายุ 52 ปี (แม่ผู้ตาย) ก่อนจะมอบหลักฐานภาพในช่วงวันเกิดเหตุที่ลูกชายตกบันไดและไปนอนล้มขอความเหลืออยู่หน้าบ้านของลูกค้าที่ลูกชายไปรับงานเหมาติดตั้งฝ้าเพดาน ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ ภาพช่วงนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านและคลิปช่วงนาทีเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นปั๊มหัวใจขณะนอนหมดสติไม่หายใจแล้ว เบื้องต้นทราบชื่อลูกชายที่เสียชีวิตชื่อ นายศุภชัยบุชลี หรือ อั่น อายุ 31 ปี เป็นช่างรับเหมาทำไฟ ทำฝ้าเพดาน กระจกอลูมิเนียม ฯลฯจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามพูดคุยเหตุการณ์ช่วงวันเกิดเหตุจนถึงวันที่เสียชีวิต
จากการสอบถาม นางอุมา บุชลี อายุ 52 ปี (แม่ผู้ตาย) ได้เล่าว่า วันนั้นเป็นวันที่ 7 เมษายน ช่วงเวลาทุ่มกว่าๆ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยโทรศัพท์มาหาตนและแจ้งว่าลูกชายของตนเมานอนอยู่หน้าบ้านให้มาที่เกิดเหตุด่วน จากนั้นตนก็ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุและได้สอบถามคนที่แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่าเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกตนว่า ตอนนั้นได้ยินเสียงดังโครมครามเหมือนมีอะไรหล่นลงมาที่พื้นและก็เห็นลูกชายของตนเดินออกมาหน้าบ้านแบบเดินโซเซและทำท่าปวดหัวแล้วก็นอนล้มลงไปเลย ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลและพยาบาลก็ซักถามประวัติแล้วก็ถามตนว่า น้องเมาเหล้ามาหรือเปล่า ตนก็บอกว่า ไม่ได้เป็นคนกินเหล้า เบียร์ น้องไปทำงานแล้วตกบันได้หัวฟาดพื้น แล้วพยาบาลก็บอกอีกว่า ก็อาการเหมือนคนเมาเหล้า ตนก็บอกย้ำว่า ไม่เมา ไม่ได้กินเหล้า หัวฟาดพื้นมา จากนั้นจู่ๆลูกชายก็ได้อ้วกออกมามีเลือดผสมออกมาด้วย ทางจมูกก็มีเลือดไหล ลูกชายคนโตก็เดินมาดมปากว่ามีกลิ่นเหล้าหรือไม่ ปรากฎว่าไม่มีกลิ่นเหล้า กินยังไงเมา ไม่มีกลิ่นเหล้าอะไรซักนิดเลย แล้วก็มีพยาบาลเดินมาและบอกว่า มีเหล้าบางตัวก็ไม่มีกลิ่นนะคะญาติ จากนั้นลูกๆและญาติพูดสวนกลับไป บ้าหรือเปล่ากินเหล้าช่วงทำงาน ก่อนที่พยาบาลจะเข็นลูกชายเข้าห้องตรวจ
ต่อมาหมอก็ได้ให้ตนเข้าไปพบและบอกว่า แม่รอซักพักนะ เดี๋ยวผมขอเอ็กซ์เรย์ก่อนอาการก่อน ก่อนหมอแจ้งผลสรุปให้ฟังว่า จากการเอ็กซ์เรย์อาการของลูกชายตั้งแต่ศรีษะไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนอาการปกติ ส่วนที่ร่างกายบริเวณซี่โครงไม่มีอะไรหัก ทุกอย่างดีหมด ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นตนก็เดินไปรับยาและเดินกลับมาพร้อมกับยา 2 อย่าง ที่ไปรับมา มี ยาแก้อาเจียนและเกลือแร่ ตนก็เกิดอาการสังหรณ์ใจไม่ดีจึงได้แจ้งหมอว่า ขอให้ลูกชายนอนที่โรงพยาบาลดูอาการซัก 1 คืน ก่อนได้ไหม เพราะดูอาการของลูกชายแล้วยังมีอาการปวดหัวรุนแรงอยู่ จากนั้นหมอก็บอกว่า ตนเองไม่มีหน้าที่ตัดสินใจให้ไปถามและขอพยาบาลที่เคาเตอร์ดู ตนจึงได้เดินไปที่เคาเตอร์และบอกกับพยาบาลว่า ขอให้ลูกชายนอนที่โรงพยาบาลก่อนได้ไหมเพราะดูอาการของลูกชายไม่ดีขึ้นเลย พยาบาลก็ตอบว่า ไม่ได้ไม่ใช่ที่นอน ก่อนพยาบาลจะให้เจ้าหน้าที่เข็นเปลเข็นเปลลูกชายตนมาตรงที่จุดขึ้นรถด้านหน้าตึกฉุกเฉิน
ต่อมาเข้าวันที่ 8 เมษายน และช่วงก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวลูกชายรอบที่ 2 ลูกชายมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง อ้วก ขี้แตก เยี่ยวแตก นอนกลิ้งไปทั่วบ้าน และได้ยกแขน 2 ข้าง ให้ตนเข้าไปกอดตนจึงเดินเข้าไปกอดจากนั้นลูกชายก็เอาหน้าซุกที่หน้าอกของตน จากนั้นจู่ๆลูกชายก็หยุดหายใจและลูกชายคนโตทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่มีความรู้ว่าต้องทำอย่างไร จึงได้พยายามปั๊มหัวใจไปก่อนหลายครั้งและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาลและระหว่างทางที่ลูกชายคนโตนั่งบนรถฉุกเฉินของกู้ภัยก็ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า ตอนนี้น้องได้ฟื้นขึ้นมาแล้วนะ ก่อนจะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแบบไม่รู้สึกตัวซึ่งร่างกายไม่ตอบสนองแล้วและเสียชีวิตในเวลาต่อมาของเช้าวันที่ 14 เมษายน
ช่วงระหว่างที่นำศพเข้าห้องชันสูตรศพ ทางหมอที่ชันสูตรศพได้แจ้งว่า สาเหตุที่เสียชีวิตนั้นมาจากกระโหลกมีรอยร้าวความยาวประมาณ 1 คืบ มีเลือดคลั่งในสมองและช่วงท้ายทอยซี่งสาเหตุมาจากถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรงและทางหมอที่ชันสูตรศพยังแจ้งอีกว่า วันแรกที่มาหาหมอทางหมอที่ตรวจโรคคงไม่มีการเอ็กซ์เรย์ที่ศรีษะแน่นอนเพราะมีแผ่นฟิลม์เอ็กซ์เรย์ส่วนด้านข้างของร่างกาย (ซี่โครง) มาแผ่นเดียวซึ่งปกติดีไม่มีอะไรหัก ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพลูกชายมาที่มาวัดหาดใหญ่ใน จึงเป็นสาเหตุที่ร้องทุกข์สื่อเพื่อให้เป็นสื่อกลางขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายและให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่ขึ้นด้วย เพราะถ้าโรงพยาบาลให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พร้อมกับมีการตรวจอาการอย่างละเอียดกว่านี้คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
และในวันนี้ตนเองพร้อมครอบครัวและญาติพี่น้องจะเดินทางไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ เข้าพบ รอง ผอ.โรงพยาบาลอยากจะทราบ ว่าทางโรงพยาบาลจะออกมารับผิดชอบอย่างไรบ้าง ให้ รอง ผอ.โรงพยาบาล สรุปประเด็นนี้


พี่เสือ นักข่าว สงขลา