กล้องวงจรปิดจับภาพนาทีรุมฆ่าโหด แก๊งค์เมียนมาร์ฆ่ากันเอง รุมแทง -รุมกระทืบ ตาย 2 เจ็บ 1 ความคืบหน้ากรณี ชาวเมียนมาร์ยกพวกตีกัน จนเป็นเหตุให้มี ชาวเมียนมาร์เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
กล้องวงจรปิดจับภาพนาทีรุมฆ่าโหด แก๊งค์เมียนมาร์ฆ่ากันเอง รุมแทง -รุมกระทืบ ตาย 2 เจ็บ 1
ความคืบหน้ากรณี ชาวเมียนมาร์ยกพวกตีกัน จนเป็นเหตุให้มี ชาวเมียนมาร์เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ต่อมา เวลา 08.00 น. ของ วันที่ 30 กันยายน 2568 วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุธีรพันธ์ ทาปศรี สว. สอบสวนสภ.เมืองพัทยา , ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี , พร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น โดยจากการตรวจสอบสภาพศพทั้ง 2 ราย รายแรก ทราบชื่อคือ นายคี ชา นอ อายุ 27 ปี ชาวเมียนมาร์ เชื้อสายเนปาล สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่กลางลิ้นปี่ 1 แผล ( กลางหน้าอก ) คมมีดตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ รายที่ 2 ทราบชื่อ นายเปรม ซี อายุ 22 ปี ชาวเมียนมาร์เชื้อสายเนปาล ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณกลางแผ่นหลัง 1 แผล ไหล่ด้านหลังฝั่งซ้าย 1 แผล และ ใต้ชายโครงหลังด้านซ้าย 1 แผล โดยสภาพศพทั้ง 2 ศพ นอนอยู่บนทางเดินเท้าฟุตบาธ ห่างกันประมาณ 6 เมตร
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธมีดปลอกผลไม้ ยาวประมาณกล้องวงจรปิดจับภาพนาทีรุมฆ่าโหด!! แก๊งค์เมียนมาร์ฆ่ากันเอง รุมแทง -รุมกระทืบ ตาย 2 เจ็บ 1
ความคืบหน้ากรณี ชาวเมียนมาร์ยกพวกตีกัน จนเป็นเหตุให้มี ชาวเมียนมาร์เสียชีวิต 2 ราย และ บาดเจ็บ 1 ราย
ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 พ.ต.ท.สุธีรพันธ์ ทาปศรี สว. สอบสวนสภ.เมืองพัทยา , ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี , พร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาล พัทยาปัทมคุณ ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น โดยจากการตรวจสอบ สภาพศพทั้ง 2 รายแรก ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นายคี ชา นอ อายุ 27 ปี ชาวเมียนมาร์ เชื้อสายเนปาล สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่กลางลิ้นปี่ 1 แผล ( กลางหน้าอก ) คมมีดตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ ตรวจสอบสภาพศพรายที่ 2 ทราบชื่อ นายเปรม ซี อายุ 22 ปี ชาวเมียนมาร์เชื้อสายเนปาล ถูกอาวุธมีแทงเข้าที่บริเวณกลางแผ่นหลัง 1 แผน ไหล่ด้านหลังฝั่งซ้าย 1 แผล และ ใต้ชายโครงหลังด้านซ้าย 1 แผล โดยสภาพศพทั้ง 2 คนนอนอยู่บนทางเดินเท้าฟุตบาธ ห่างกันประมาณ 6 เมตร
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธมีดปลอกผลไม้ ยาวประมาณ 20 ซม. และเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 2 เล่ม โดยอาวุธมีดเล่มแรก ตกห่างจากรายแรก ประมาณ 1 เมตร และ เล่มที่ 2 ตกอยู่บริเวณ หน้าบริษัทนำเที่ยว โดยอาวุธมีดถูกแทงจนหักออกจากด้าม ตกอยู่ที่กระถางต้นไม้ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง กลุ่มผู้ก่อเหตุกับกลุ่มผู้เสียชีวิต โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายเป็นชาวพม่า เชื้อสาย เนปาล ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการไล่ตีกันมาตั้งแต่สะพานต่างระดับ ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 7-8 คน ส่วนฝ่ายผู้ตายและคนเจ็บมากัน 3 คน ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุ มีการใช้อาวุธมีด อิฐบล็อกตัวหนอนทุบตี และ รุมทำร้าย อย่างโหดเที่ยม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งหมด 3 ราย
นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ เป็นชาวพม่า ได้จำนวน 4 คน และอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนปม คาดว่ามาจาก ฝ่ายผู้ก่อเหตุกับฝ่ายผู้ตาย มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้านี้เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมา ในงานเลี้ยงเชื่อมความสัมพันธมิตร ไทย-เนปาล และ งานเจิมติกะ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 700 เมตร ซึ่งขณะที่มีการปะทะคารมกันมีพลเมืองที่สามารถถ่ายคลิปไว้ได้บางส่วน ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายจนเกิดเหตุการณ์วิ่งไล่แทงกันมาตามท้องถนน จนเกิดเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่ชาวเมียนมาร์ ที่ไปร่วมงานดังกล่าวภายในโรงแรม ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้ตาย เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารอินเดียแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ และถูกว่าจ้างให้เปลี่ยนเป็นพนักงานเสิร์ฟในงานเลี้ยงเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-เนปาล ก่อนจะไปมีปัญหาเขม่นกับชาวเมียนมาร์ ซึ่งเคยมีปัญหากันก่อนหน้านี้ ซึ่งจากแนวทางการสอบถามทราบเพียงว่า เป็นเรื่องของการไม่พอใจในการเล่นฟุตบอล แล้วเกิดการกระทบกระทั่งกัน จนเกิดการผิดใจกันมาโดยตลอด
ส่วนผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ตำรวจอยู่ระหว่างการคุมตัวสอบปากคำอย่างละเอียดหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ภาพ/ข่าว ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 20 ซม. และเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 2 เล่ม โดยอาวุธมีดเล่มแรก ตกห่างจากศพแรก ประมาณ 1 เมตร และ เล่มที่ 2 ตกอยู่บริเวณหน้าบริษัท นำเที่ยว โดยอาวุธมีดหักออกจากด้ามตกอยู่ที่กระถางต้นไม้ ตำรวจ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง กลุ่มผู้ก่อเหตุกับกลุ่มผู้เสียชีวิต โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายเป็นชาวพม่า เชื้อสาย เนปาล มีการไล่ตีกันมาตั้งแต่สะพานต่างระดับ ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 7-8 คน ส่วนฝ่ายผู้ตายและคนเจ็บมากัน 3 คน ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุมีการใช้อาวุธมีด อิฐบล็อกตัวหนอนทุบตี และรุมทำร้าย อย่างโหดเที่ยม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวม 3 ราย
นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ เป็นชาวพม่า ได้จำนวน 4 คน และอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนปม คาดว่ามาจาก ฝ่ายผู้ก่อเหตุกับฝ่ายผู้ตาย มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมา ในงานเลี้ยงเชื่อมความสัมพันธมิตร ไทย-เนปาล และงานเจิมติกะ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร ซึ่งขณะที่มีการปะทะคารมกัน มีพลเมืองดีที่สามารถถ่ายคลิปไว้ได้บางส่วน ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย จนเกิดเหตุการณ์วิ่งไล่แทงกันมาตามท้องถนน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ดังกล่าว
ขณะที่ชาวเมียนมาร์ ที่ไปร่วมงานภายในโรงแรม ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้ตาย เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารอินเดียแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ และถูกว่าจ้างให้เปลี่ยนเป็นพนักงานเสิร์ฟในงานเลี้ยงเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-เนปาล ก่อนจะไปมีปัญหาเขม่นกับชาวเมียนมาร์ ซึ่งเคยมีปัญหากันก่อนหน้านี้ ซึ่งจากแนวทางการสอบถามทราบเพียงว่า เป็นเรื่องของการไม่พอใจในการเล่นฟุตบอล แล้วเกิดการกระทบกระทั่งกัน จนเกิดการผิดใจกันมาโดยตลอด
ส่วนผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ตำรวจอยู่ระหว่างการคุมตัวสอบปากคำอย่างละเอียด หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี พัทยา 0909535645