จับพม่าเปิดร้านโทรศัพท์รับซื้อเครื่องที่ขโมยมาล้างข้อมูลโฆษณาแก้ I-cloud แล้วนำไปขายพม่าด้วยกันรายได้ดียึดของกลางเพียบ
ตามนโยบาย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ให้กวาดล้างจับกุมต่างชาติทำผิดกฏหมาย ที่ส่งผลกระทบในแหล่งท่องเที่ยวจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ทท.5 กก.2 พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ออกสืบสวนติดตามกลุ่มบุคคลที่ที่กระทำความผิดส่งผลกระทบต่ออุตส่ากรรมการท่องเที่ยว 10 กลุ่ม
เมื่อเวลา 17:30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเทียวเกาะพะงันได้รับแจ้งว่า มีชาวเมียนมาร์ประกอบอาชีพรับซ่อมโทรศัพท์ แก้ I-cloud ล้างข้อมูลโทรศัพท์มือถือ พร้อมโพสเฟสบุ๊คโฆษณา รับซ่อมโทรศัพท์ แก้ I-cloud ล้างข้อมูลโฆษณาให้กับลูกค้าชาวเมียนมาร์ บริเวณ ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้รายงานให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ทราบ จึงได้เดินทางตรวจสอบ พร้อมสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวพะงัน
พบว่าประตูเปิดอยู่ มีลูกค้ามาใช้บริการเข้า-ออกบริเวณหน้าร้านบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ประสาน สภ.เกาะพะงัน ตรวจคนเข้าเมื่อพะงัน ปกครองพะงัน ร่วมตรวจสอบ
พบ นายจอ เท็ด อู (Mr.Kyaw Htet Oo) อายุ 33 ปี สัญชาติ เมียนมาร์กำลังทำงานซ่อมโทรศัพท์มือถืออยู่บริเวณโต๊ะทำงาน พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 49เครื่องและอุปกรณ์ใช้ในการซ่อมโทรศัพย์จำนวนหนึ่ง
พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา 1.เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต (บริการรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ) 2. เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)”
จึงได้ทำการยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สอบถาม นายจอ เท็ด อู ให้การยอมรับว่าตนจะรับซื้อโทรศัพท์ที่ติดล็อคในราคาที่ถูก นำมาปลดล็อค ล้างข้อมูลภายหลัง และจะนำไปขายต่อโดยการมีการขายแบบจ่ายยอดทั้งหมดหรือผ่อนชำระ โดยวิธีการผ่อนชำระ ตนจะจัดเก็บข้อมูล Icloud หรือ Gmail ไว้ ลูกค้าจะต้องผ่อนจ่ายรายเดือนจนครบ ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของโทรศัพท์มือถือ หากไม่ผ่อนจ่ายตรงตามเวลา ตนจะทำการล็อคโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้ ทั้งยังรับเปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์โดยราคาเริ่มต้น เครื่องละ 1,000 บาท จะเป็นที่รู้จักในกลุ่มของชาวเมียนมาร์ด้วยกัน มีทั้งชาวเมียนมาร์ที่เข้ามาซื้อโทรศัพท์และนำโทรศัพท์มาซ่อมหรือปลดล็อค
โดยนายจอยอมรับ ว่าข้อความดังกล่าวที่ปรากฏใน FACEBOOK ที่ชื่อว่า Kyaw Htet และข้อความโฆษณาเป็นตนเองจริง โดยตนโพสต์เพื่อทำการโฆษณาให้กับลูกค้าชาวเมียนมาร์ได้มาใช้บริการกับตน ซึ่งตนสร้างรายได้ประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน
เคสนี้สืบเนื่องมีนักท่องเที่ยวหลายราย เข้ามาขอความช่วยเหลือ จากตำรวจท่องเที่ยวกรณี มาเที่ยวบนเกาะพะงัน แล้วหลังจากเดินเที่ยว ชายหาด วางกระเป๋าใส่โทรศัพท์ ไว้ ได้หายไป และ นทท บางราย ก็ มีอาการมึนเมาสุรา และ โดนลักโทรศัพท์ ซึ่งพบเจอเคสแบบนี้ บ่อยครั้ง ล่าสุด พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ออกสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว ให้ออกเฝ้าติดาม กลุ่มบุคคลเป้าหมาย จนทราบว่า มีบุคคลดังกล่าว รับซื้อ รับแก้ไข ข้อมูล
แก้ I-cloud ล้างข้อมูล จึงให้สายลับเข้าตรวจสอบ จนแน่ชัด นำไปสู่การจับกุมตัว
ผู้ต้องหารายนี้ นับเป็นอีก เคสที่ทำให้ภาพลักการท่องเที่ยว เสียหาย โดยนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์ ร้องทุก เพราะต้องเดินทางไปเที่ยวภายในประเทศและ บางรายมาเพื่อเที่ยวเกาะพะงัน และ บินกลับบ้าน เลย นับว่าเป็นอีกเหตุการทำลายภาพลักษณะการท่องเที่ยว บนเกาะพะงัน ซึ่งส่งผลกระทบ ต่อความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยว ต่อจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกัน กวาดล้างจับกุม ผู้ที่มาทำผิดทำลายภาพลักษณะการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
พี่เสือ นักข่าว สงขลา