วงจรปิดจับภาพนาทีอุกอาจคนร้ายควงปืนขี่มอไซค์ประกบปล้นชาวบ้านหน้าหมู่บ้านหรูย่านบางพลี
วงจรปิดจับภาพนาทีอุกอาจคนร้ายควงปืนขี่มอไซค์ประกบปล้นชาวบ้านหน้าหมู่บ้านหรูย่านบางพลี
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านแห่ง ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่มีคนร้ายชายหนึ่งคนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบผู้เสียหายเพื่อปล้นเอาทรัพย์สินไป โดยภาพจากกล้องวงจรปิดมุมแรก จับภาพได้ในขณะที่ จะเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของคนร้ายขับเข้ามาจากท้ายหมู่บ้านจนมาถึงถนนสายเมนของหมู่บ้าน ซึ่งจากภาพกล้องวงจรปิดมุมนี้สามารถบันทึกเสียง ในขณะที่คนร้ายใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงขู่ผู้เสียหาย 1 นัด ก่อนจะเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ตามประกบผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้หญิงขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงลำพัง

ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม จะเห็นชัดเจนในจังหวะที่คนร้ายรายนี้ ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาวไม่ติดผ่านป้ายทะเบียนและคนร้ายชายหนึ่งคนสวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า ตามประกบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจนมาถึงป้อม รปภ. ทางเข้าหมู่บ้านเพื่อเรียกให้ผู้เสียหายจอดรถ โดยชักปืนจี้ข่มขู่ จนผู้เสียหายท่านนี้ตกใจกลัวจนรถล้มลง
ภาพวงจรปิดอีกมุมจับภาพได้พร้อมเสียงชัดเจน หลังจากที่คนร้ายรายนี้ประกบเรียกให้ผู้เสียหายจอดและพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายให้ส่งทรัพย์สินให้ หากไม่ให้จะใช้ปืนที่เตรียมมายิงผู้เสียหาย จนผู้เสียหายต้องยอมปลดทรัพย์สินให้ โดยเฉพาะสร้อยคอทองคำและเงินสดในประเป๋า หลังจากที่คนร้ายรายนี้ได้ทรัพย์สินไปก็ขับรถจักรยานยนต์หลับหนีออกหน้าหมู่บ้านไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเช้ามืดวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ช่วงเกือบหกโมงเช้า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี แล้ว แต่ยังจับกุมคนร้ายรายนี้ไม่ได้ กระทั่งคณะกรรมของหมู่บ้านหวั่นเรื่องความปลอดภัยของลูกบ้านจึงตัดสินใจนำภาพจากกล้องวงจรีปิดมาร้องต่อนักข่าวเรา
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ทีมข่าวเราได้เดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยพบว่าเป็นหมู่บ้านค่อนข้างใหญ่มีผู้พักอาศัยถึง 350 ครอบครัว แต่เป็นหมู่บ้านเปิด ซึ่งยังไม่มีการจัดตั้งนิติ จึงยังไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยหรือ รปภ. ของหมู่บ้าน โดยอยู่ในขั้นตอนของการผลักดันจัดตั้งนิติหมู่บ้านจากคณะกรรมการของหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อร่วมกันดูแลหมู่บ้าน

ทีมข่าวเรา ได้ไปพูดคุยกับ คุณ อนุสรณ์ สุเทพากุล หรือ พี่จง หนึ่งในคณะกรรมการของหมู่บ้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุลูกบ้านรายนี้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักของหมู่บ้านเพื่อจะออกไปทำงานตามปกติในชีวิตประจำวันของลูกบ้าน พอใช้ถนนเมนหลักของหมู่บ้านก็มีรถจักรยานยนต์ขับตามหลังมา จนไล่ตามทัน จากนั้นคนร้ายได้ชักปืนยิงขู่ก่อนหนึ่งนัด จากนั้นก็ประกบให้จอด ตามภาพกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายไปคือสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 สลึง และเงินสดประมาณ 6-7 ร้อยบาท ซึ่งจากรูปพรรณสัณฐานคนร้ายรายนี้คาดจะเป็นคนนอกหมู่บ้านเพราะไม่คุ้นรถและรูปร่างของคนร้าย ซึ่งที่ผ่านมาหมู่บ้านแห่งนี้อยู่กันมานานเกือบ 20 ปีไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ลูกบ้านหวาดผวากับคนร้ายรายนี้เป็นอย่างมากอยากให้ตำตรวจตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่ นางสาว นันทวัน อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเราผ่านทางโทรศัพท์ เนื่องจากเธอไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี โดยเธอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ ตนเองออกมาจากบ้านเพื่อไปทำงานตามปกติ พอขับมากำลังจะออกพ้นหมู่บ้านแล้ว สังเกตเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ขับตามหลังมาด้วยความเร็ว ตอนนั้นตนจึงชะลอรถเพื่อให้เขาขับแซงไปก่อน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับตนเองจึงไม่ทันระวังตัว จังหวะที่ชะลอรถเพื่อให้เขาแซง แต่เขาไม่แซง จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นหนึ่งครั้ง ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงดังกล่าวท่อรถแต่งของวัยรุ่น ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไร พอขับมาถึงตรงป้อม รปภ. หน้าหมู่บ้านจึงหันไปมองรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พบว่าคนขับชักปืนจี้เรียกให้จอด จึงรีบจอดจนรถล้ม เพราะตอนนั้นตกใจมาก หลังจากคนร้ายได้ทรัพย์สินไปก็รีบเดินทางไปแจ้งความ ตอนนี้ยังผวากับเหตุการณ์ดังกล่าวและไม่คาดคิดว่าจะมาถูกดักปล้นหน้าหมู่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่มาเกือบยี่สิบปี จึงอยากวอนตำรวจให้เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติกรรมตั้งใจพกปืนมาดักปล้นกลางชุมชน อีกทั้งยังมีการยิงปืนขู่ก่อน วันนั้นถ้าตนเองตัดสินใจสู้หรือห่วงทรัพย์สินคนร้ายอาจจะยิงตนเองก็ได้

**************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
