จับกุมพาดหัวข่าว

ปทุมธานี – วงจรปิดจับภาพหนุ่มขับแท็กซี่งัดตู้บริจาควัด

ปทุมธานีวงจรปิดจับภาพหนุ่มขับแท็กซี่งัดตู้บริจาควัด

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 7 ก.ค.68 พ.ต.อ.วรยุทธ พงษ์ตัน ผกก.สภ.หนองเสือ พ.ต.ท.ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.หนองเสือ พ.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข สว.สส.สภ.หนองเสือ ร.ต.อ.ภาสเมศวริย์ ปัญญาธนวัฒน์ รอง สว.สส.,ร.ต.ท.ศักดิ์ดา มากเมือง สว.,พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.หนองเสือ ได้ร่วมกันจับกุมนายปิยะพันธ์ หรือ บอย กันทาเขียว อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง1.รถแท็กซี่นั่งส่วนบุคคลสีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน 1มก 2706 กรุงเทพมหานคร 2.เสื้อที่ใส่ในวันก่อเหตุ 3.กระเป๋าเป้1 ใบ โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่าน ต.ลำไทรอ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี


ด้านพ.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข สว.สส.สภ.หนองเสือ ได้ให้ข้อมูลว่าวันที่ 3 ก.ค.68 เวลา 19.11 น.เจ้าอาวาสวัดพวงแก้ว อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.หนองเสือว่าได้ตรวจสอบพบว่าตู้บริจาคถูกงัดจำนวน 2 ตู้ จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.68 เวลา 01.53 น. มีคนร้าย 1 คน ขับรถยนต์แท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ไม่ทราบทะเบียน มาจอดแล้วเข้ามางัดตู้บริจาคนำเงินในตู้ไม่ทราบจำนวน จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.หนองเสือ ได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงทราบว่ารถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าวมีลักษณะติดสติ๊กเกอร์ ด้านหลังประตูหลังทั้งซ้ายและขวาและสติ๊กเกอร์ ติดอยู่บนกระจกทางด้านฝั่งคนนั่งด้านซ้ายและได้ดูกล้องวงจรปิดจนทราบหมายเลขทะเบียนรถคือ 1 มก 2706 กทม. และได้ตรวจสอบจากหมายเลขทะเบียนจนทราบว่านายบุญรัตน์ กันทาเขียว เป็นผู้เช่ารถแท็กซี่คันดังกล่าว พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 11/4 ม.6 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อมา ( วันนี้ 7 ก.ค.68 ) ชุดจับกุม สืบสวน สภ.หนองเสือ ได้ไปตรวจสอบบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าวพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวหมายเลขทะเบียนและลักษณะตำนิรูปพรรณ ตรงกับในกล้องวงจรปิดกำลังขับขี่เข้ามาจะจอดที่หน้าบ้านเลขที่ดังกล่าวพอดี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สภ.หนองเสือ และเรียกผู้ขับขี่ให้ลงจากรถ จากนั้นได้เรียกผู้ขับขี่สอบถามทราบชื่อ นายปิยะพันธ์ หรือบอย กันทาเขียว และได้นำรูปจากกล้องวงจรปิดรถยนต์แท็กซี่คันก่อเหตุและรูปตำนิรูปพรรณคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในวัดพวงแก้วให้ดู และรับสารภาพว่าตนเป็นคนใช้รถและเป็นผู้นำรถแท็กซี่ไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่วัดพวงแก้วจริง จากนั้นจึงได้ตรวจยึดรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน 1 มก 2706 กทม. และได้เชิญตัว นายปิยะพันธ์ หรือบอย ฯ มาที่ สภ.หนองเสือ เพื่อทำการซักถามขยายผล จากการสอบถามให้การว่า วันที่ 27 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 01.50 น. ตนได้ยืมรถยนต์เก๋งแท็กซี่ของบิดา ขับมาตามเลียบถนนคลอง 8 เพื่อตังใจมาลักทรัพย์ ภายในวัดพวงแก้ว ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยได้ใช้คีมตัดกุญแจตู้บริจาคเงินของวัดและได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวนประมาณห้าพันกว่าบาท หลังก่อเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.ธัญบุรี ไปที่บ้านพัก บ้านเลขที่ 11/4 ม.6 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และได้นำเงินที่ก่อเหตุไปใช้จ่ายภายในครอบครัว ระหว่างการสอบถาม นายปิยะพันธ์ หรือบอย ฯ มีอาการลักษณะคล้ายคนเสพยาเสพติดจึงได้สอบถามและรับว่าได้เสพยายาบ้ามาเมื่อ 2 วันก่อนถูกจับ จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมและเสพสารเสพติด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ด้านนายปิยะพันธ์ หรือ บอย กันทาเขียว อายุ 42 ปี(ผู้ต้องหา) รับสารภาพว่าที่ตนเองทำครั้งแรกซึ่งรถแท็กซี่เป็นของพ่อเงินที่ได้ไปจำนวน5พันกว่าบาทซึ่งตนเองไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดลงมือคนเดียวซึ่งใช้คีมงัดซึ่งที่เลือกวัดนี้เคยเห็นวัยรุ่นเยอะและเคยเข้าไปส่งลูกค้า และแฟนตนเองป่วยด้วยก็เลยมาขโมยเงินวัดและเงินที่อยู่ในบาตรรับบริจาคนั้นเยอะส่วนมากเป็นแบงค์ 20 และนำเงอนใสกระเป๋าเป้ และเคยถูกจับคดีจำหน่ายยาบ้าที่สน.เพชรเกษมปี2558 และพึ่งออกมาเมื่อปี2567
ด้านนายจักรนรินทร์. ฟักเชือก ผญบ.ม.5 บอกว่ามีประชาชนไปทำบุญและไปเจอเงินหล่นอยู่ข้างบาตรรับบริจาคทางเจ้าอาวาสเลยมาแจ้งความหลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเห็นว่ามีคนร้ายเข้ามางัดตู้บริจาคและเอาเงินไป ซึ่งวัดนี้ไม่เคยถูกงัดตู้บริจาคเลยครั้งนี้เป็นครั้งแรก