แม่พาลูก ป.5 ร้องสื่อ ถูกแม่เพื่อนตบหน้าอย่างแรง แถมยังหักนิ้ว หลังมีปากเสียงแย่งที่นั่งเรียนพิเศษ
แม่พาลูก ป.5 ร้องสื่อ ถูกแม่เพื่อนตบหน้าอย่างแรง แถมยังหักนิ้ว หลังมีปากเสียงแย่งที่นั่งเรียนพิเศษ
นางสาว จิราภรณ์ เพชรประพันธ์ อายุ 45 ปี แม่น้องกานต์ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังน้องกานต์ ถูกผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้น ตบใบหน้าและหักนิ้วชี้มือขวาจนได้รับบาดเจ็บ ในที่เรียนพิเศษ ช่วงเย็น วันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยน้องกานต์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ประมาณ 16.30 น. แม่ไปส่งที่เรียนพิเศษแห่งหนึ่ง จากนั้นก็พบแม่ของเพื่อนร่วมชั้นยืนอยู่หน้าที่เรียนพิเศษ แล้วคนเปิดประตูที่เรียนพิเศษมาถึง แม่ของเพื่อนก็ขอเปิดประตูเอง แล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน ส่วนตนก็วิ่งตามขึ้นไป และสิ่งที่เห็น แม่ของเพื่อน นำกระเป๋าขึ้นไปจองที่นั่งให้ลูกของตัวเอง แล้วตนก็วางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ตัวตรงกลาง แต่แม่ของเพื่อน กลับพูดตะคอกใส่ว่า วางกระเป๋าอยู่ก่อนแล้ว จึงได้เลือกที่นั่งก่อน ทำให้มีปากเสียงกับแม่เพื่อน
จากนั้นแม่เพื่อน ก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปตนไว้ พร้อมบอกว่า จะนำไปเพื่อนๆ ดู และเพื่อนจะได้ไม่คบ ขณะที่ตนก็นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เช่นกัน ก่อนจะมีปากเสียงกันรุนแรง ถึงขั้นที่ตนหลุดพูดคำว่า ถ่ายคลิปไว้ เพื่อนๆ ก็จะได้รู้ว่า แม่ของเพื่อนคนนี้สันดานเสีย ทำให้แม่ของเพื่อน ปัดโทรศัพท์ของตนจนตกลงพื้น แล้วใช้มือตบเข้าที่ข้างศีรษะด้านซ้ายอย่างแรง พร้อมกับหักนิ้วชี้ มือขวา 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ รู้สึกชาเหมือนเป็นตะคริว จากนั้นตนก็วิ่งลงไปหน้าที่เรียนพิเศษ แล้วยังต่อว่าหนูรุนแรง ว่าหักนิ้วเพราะชี้หน้า ตนจึงโทรศัพท์ไปหาป้าให้มารับพาไปรักษา
ซึ่งแม่ของเพื่อนคนนี้ ก็รู้จักมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล และเพื่อนก็เรียนห้องเดียวกันด้วย แต่เพื่อนของตนมีนิสัยชอบบุลลี่ตนเป็นประจำ
ด้าน นางสาว จิราภรณ์ เพขรประพันธ์ อายุ 45 ปี แม่น้องกานต์ บอกว่า วันดังกล่าว ตนไปส่งลูกที่หน้าที่เรียนพิเศษ เพื่อให้ลูกขึ้นไปจองที่นั่ง จากนั้นก็ซื้อข้าวมาให้ลูก ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก และเรียนมานาน 2 ปีแล้ว หลังเกิดเหตุ ลูกโทรศัพท์มาหาตน แต่ไม่ได้รับสาย จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาป้า ก่อนที่ตนจะกลับไปถึงหน้าที่เรียนพิเศษ ก็พบลูกยืนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว พร้อมบอกว่า ถูกตบ และอยากย้ายโรงเรียน แต่หากจะให้เรียนก็ต้องให้ตนนั่งเฝ้า เพราะกลัวแม่ของเพื่อนที่ชื่อติ๊ก จนถึงวันนี้ก็กลัว และไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวแม่ของเพื่อนมาทำร้าย
ทั้งนี้แม่ของเพื่อนลูกสาว เคยคบหา มีความสนิทสนมกันมานาน เคยช่วยเหลือกันและกันในหลายๆ เรื่อง แต่ระยะหลังลูกสาวของเขา ชอบบุลลี่ลูกสาวของตน กระทั่งครั้งล่าสุด ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่แม่ของเพื่อนลูกสาว พยายามจะรังแกลูกสาว ซึ่งเชื่อว่า ทำให้ลูกก็หมดความอดทนเช่นกัน
ทั้งนี้เคยมีผู้ปกครองเด็กคนอื่น มาเล่าให้ฟังเช่นกันว่า แม่เพื่อนของลูกคนนี้ ชอบรังแกเพื่อนๆ ลูกตัวเองอีกหลายคนที่มีปัญหา ทะเลาะกันตามประสาเด็กกับลูกของตัวเอง บางครั้งถึงขั้นไปดักรอเด็กคู่กรณีลูกตัวเองที่ใต้อาคารในโรงเรียน และหลังเกิดเหตุกับลูกสาวตนแล้ว ก็ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊ก และการพูดท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี
นางสาว ทิพย์ถาพร เพชรประพันธ์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นป้าน้องกานต์ บอกว่า หลังเกิดเหตุ หลานโทรศัพท์มาหาตน เพราะโทรศัพท์หาน้องสาวไม่รับสาย ตนจึงบอกให้หลานไปบอกครูผู้สอนก่อน แต่ปรากฏว่า ครูผู้สอนยังไปไม่ถึงที่เรียนพิเศษ และมีเพียงคนไปเปิดที่เรียนพิเศษรอนักเรียนเท่านั้น และเมื่อน้องสาวไปถึง ตนก็ขับรถตามไป จนได้พบกับครูผู้สอน และได้ให้ดูภาพกล้องวงจรปิด ก็ทำให้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้น มีการยั่วยุหลานสาว และหากเป็นเหตุการณ์กับผู้ใหญ่ ก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้
จากนั้นตนก็นำหลานสาว ไปแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ปกครองนายนี้แล้ว และนำไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่นิ้วชี้ ซึ่งแพทย์ได้ดามเหล็กไว้แล้ว ส่วนคู่กรณีก็ยังไม่ติดต่อมาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น
พี่เสือ นักข่าวจ.สงขลา
