ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจเยี่ยมอุทกภัย

ประจวบฯ – รัฐมนตรีเกษตรห่วงเพชรบุรีสั่งชลประทานเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันล่าสุด

รัฐมนตรีเกษตรห่วงเพชรบุรีสั่งชลประทานเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันล่าสุด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบฉับพลันล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีว่า ได้ประสานการทำงานกับนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี นายมีชัย ปฏิยุทธ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน นายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรีและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีโดยเร็วที่สุดตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันเมื่อคืนวันวานที่ผ่านมาตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งมีความห่วงใยในพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี


นายอลงกรณ์กล่าวว่า น้ำหลากน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักเหนืออ่างเก็บน้ำและใต้อ่างเก็บน้ำทั้ง3แห่งคือแก่งกระจาน แม่ประจันต์ ห้วยผากและห้วยสงสัยในช่วงวันที่23-24พ.ย. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บางหมู่บ้านของอำเภอแก่งกระจาน หนองหญ้าปล้อง ท่ายางและชะอำเป็นภาวะน้ำท่วมแบบฉับพลันมาเร็วไปเร็ว ซึ่งจังหวัดเพชรบุรี ปภ.จังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานชลประทานและเครือข่ายจิตอาสาได้ร่วมกันช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจนขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติโดยส่วนใหญ่เหลือเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังโดยมอบหมายให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ชลประทานจังหวัดเพชรบุรีและสำนักงานชลประทานที่14ระดมเครื่องจักกลและเครื่องสูบน้ำเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด


สำหรับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเพชรบ่ายวันนี้ได้ระบายลงแม่น้ำเพชรบุรี100ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและคลองระบายน้ำ4สายหลักในปริมาณเท่าๆกันซึ่งด้วยปริมาณน้ำดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ใต้เขื่อนเพชรได้แก่อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาดและเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี แต่อาจมีน้ำท่วมขังในตำบลบ้านกุ่ม ท่าแร้งและบางครกซึ่งชลประทานจะเร่งสูบน้ำและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่
ภายในไม่มีวันข้างหน้า


“น้ำท่วมครั้งนี้เป็นท่วมเฉพาะบางพื้นที่ในระยะสั้น จึงไม่มีผลกระทบต่อการค้าธุรกิจ และการท่องเที่ยวในวงกว้างแต่อย่างใด ส่วนพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการดูแลช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการโดยเร็วต่อไป สำหรับน้ำท่วมครั้งที่แล้วระหว่างงันที่8-11พ.ย.ทางจังหวัดสรุปรายงานมีพื้นที่5อำเภอ17ตำบล98หมู่บ้าน369ครัวเรือนซึ่งจะเร่งจ่ายเงินเยียวยาโดยเร็ว ส่วนน้ำท่วมครั้งนี้ให้เร่งทำการสำรวจเพื่อเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วต่อไป “นายอลงกรณ์ กล่าว

พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 3396 4 4 4