การเก็บกู้เรือท่องเที่ยวแม่โขงเดลต้าเป็นไปตามแผนที่ทุกฝ่ายร่วมกันประเมินสถานการณ์ได้ตรงกัน พร้อมรอจังหวะเวลาระดับน้ำลดลงก็จะสามารถตั้งเรือให้ลอยลำได้ตามปกติ
สถานการณ์การเก็บกู้เรือนำเที่ยวชื่อแม่โขงเดลต้า ของบริษัท แม่โขงเดลต้า จำกัด ได้อัปปางเนื่องจากกระแสน้ำและมวลน้ำที่เพิ่มขึ้นของแม่น้ำโขง จากอิทธิพลของพายุโซลร้อนชินลากูที่ก่อให้เกิดฝนตกในพื้นที่ตอนบนของต้นกำเนิดแม่น้ำโขง ใกล้บริเวณท่าจอดเรือแม่โขงเดลต้า หมู่ที่ 9 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มาตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า โดยมีสาเหตุมาจากกระแสน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มปริมาณและการไหลผ่านที่มีความรุนแรง ส่งผลให้เชือกที่ผูกเรือขาด เรือลอยออกจากฝั่ง และขวางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด ทำให้เรือเอียง น้ำได้ไหลเข้าตัวเรือและอัปปางลง
โดยตลอดของวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563 เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ได้นำพนักงานกว่า 10 คน มาทำการผูกโยงเรือแม่โขงเดลต้า เพื่อป้องกันไม่ให้ลำเรือเกิดอาการเอียงได้อีก หลังจากการยกลากให้ตัวลำเรือตั้งตรงและยันกับแนวตลิ่งให้สมดุลกัน เนื่องจากเมื่อมีมวลน้ำไหลลงมามาก อาจทำให้เรือเอียงไปได้อีก ทำให้ยากแก่การแก้ปัญหา ซึ่งหลังจากมวลน้ำลดลงแล้ว คาดว่าจะปฏิบัติการเก็บกู้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านนายมานพ เวียร่า ผู้จัดการท่าจอดเรือแม่โขงเดลต้า และหัวหน้าทีมกู้เรือ เปิดเผยว่า “ได้วางแผนที่จะกู้เรือขึ้นมาโดยจะขอความช่วยเหลือจากชุดประดาน้ำของทหารเรือ นำเชือกไปคล้องรัดส่วนท้ายของเรือแม่โขลเดลต้า แล้วใช้เรือบริการตงหลง ซึ่งติดตั้งลูกรอกขนาด 10 ตัน จำนวน 2 ตัว ค่อย ๆ ยกส่วนท้ายเรือขึ้นมา ให้ห้องท้ายเรือโผล่พ้นผิวน้ำ แล้วจะใช้เครื่องสูบน้ำขนาด 3 นิ้ว ซึ่งมีความสามารถในการสูบน้ำได้นาทีละ 1 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ตัว สูบน้ำออกจากห้องท้ายเรือ ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำอยู่ประมาณ 25 ลูกบาศก์เมตร และห้องเครื่องยนต์เรือ เป็นห้องถัดไป ต่อกับห้องโดยสาร พร้อมกับการใช้รอกค่อย ๆ ยกส่วนท้ายเรือให้ลอย จนกว่าตัวเรือจะพ้นจากน้ำ และตั้งลอยลำได้เป็นปกติ”
“พร้อมกันนี้ ในส่วนด้านหัวเรือจะผูกติดกับทุ่น และจะใช้รถแครนดึงประคองตัวเรือไว้ ไม่ให้หัวเรือเบนไปมาตามกระแสน้ำและประคองไม่ให้หัวเรือจมลงไปอีก”
“ซึ่งคาดว่าทุกอย่างมีความพร้อม ทั้งกำลังคน เครื่องมือ และระดับนำที่ไม่สูงเกินไป น่าจะใช้เวลาในการกู้เรือแม่โขงเดลต้าประมาณ 1-2 วัน แต่เนื่องจากสภาพของปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาตลอด 2-3 วันมานี้ และกระแสน้ำในแม่น้ำโขงไหลเชี่ยวแรงขึ้น ไม่สามารถดำเนินการได้ช่วงนี้ คงต้องรอเวลาอีก เพื่อให้การทำงานได้สะดวกและไม่สร้างความเสียหายกับตัวเรือเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเรามีความตั้งใจในการกอบกู้เรือในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความอบอุ่นใจที่จะได้รับบริการที่ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานของการเดินเรือและการคมนาคมทางน้ำ” ผู้จัดการท่าเรือแม่โขงเดลต้ากล่าวในที่สุด
เครดิตข่าว โดย / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ทีมข่าว ทั่วไทยนิวส์ รายงาน