วัยรุ่นเลือดร้อน ขี่รถไร่แทงคู่อริบาดเจ็บเลือดท่วม ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 16 สิงหาคม 2563 เวลา 1.00 น.
อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประสบเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาบริเวณปากซอยประชาอุทิศ16 แขวง และ เขต ราษฎร์บูรณะ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แล้วพบเห็นรถจักยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น PCX สีขาวดำ พลิกตะแคงล้มลงกับพื้น แล้วยังมีกลุ่มวัยรุ่นประมานสิบกว่าคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่บริเวณกลางถนน ทำให้มีการจราจรติดขัดเป็นจำนวนมาก
เมื่ออาสาสมัครเห็นดังนั้นจึงรีบรุดเข้าระงับเหตุทันที เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นกำลังยืนถกเถียงกันอยู่จับใจความได้ว่าถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นเรื่องรถเฉี่ยวชนกันนั้นเอง ต่อมาได้กล่าวถามถึงว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถชนกันหรือเปล่า แต่กลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายก็ยังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่กลางถนน จึงเร่งห้ามปรามทั้งสองฝ่ายให้สงบสติอารมณ์กันซะก่อนๆที่จะเกิดเหตุการณ์ที่อาจจะนำมาซึ่งการณ์ก่อเหตุต่อยตีกันก็เป็นได้ ต่อมาเมื่อต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันแล้ว และฝ่ายที่ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกันไปอย่างรวดเร็ว
พอซักพักอาสาก็ถามถึงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่กลางถนนว่าเป็นเช่นไรบ้าง เมื่อตรวจสอบร่างกายก็พบกับเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณแขน จึงเกิดความสงสัยก็เลยถามไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์นี้กันแน่ ผู้บาดเจ็บก็บอกว่า “ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อน แล้วคู่กรณีดังกล่าวก็ขี่รถมาในระยะกระชั้นชิดแล้วก็ชักมีดพกขึ้นมาแทงที่บริเวณแขนของตน จึงทำให้รถเกิดเสียหลักล้มลงกับพื้นในบริเวณดังกล่าว แล้วนอกจากแผลที่ถูกแทงด้วยมีดบริเวณแขนแล้ว ยังพบกับรอยถลอกตามร่างกายหลายแห่ง อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงรีบจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อรีบห้ามเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมากและสังเกตุได้ว่าผู้บาดเจ็บเริ่มมีอาการตัวซีด แล้วเริ่มมีอาการหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมแล้วอาจจะเป็นเพราะเสียเลือดมากก็เป็นได้ หลังจากปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงรีบนำผู้บาดเจ็บไปส่งต่อที่ โรงพยาบาลเจริญกรุง ทันที
ส่วนรถจักรยานยนต์ ของผู้บาดเจ็บที่ขับขี่มานั้นก็ให้เพื่อนขับขี่กลับบ้านไปก่อนเพื่อแจ้งให้กับทางผู้ปกครองของผู้บาดเจ็บรับทราบแล้วให้ผู้ปกครองตามไปที่โรงพยาบาลทันที เพราะตัวผู้บาดเจ็บเองมีอายุแค่19ปี ซึ่งถือว่ายังเป็นเยาวชนอยู่เลย
ส่วนเรื่องคดีความต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อนถึงจะไปแจ้งความกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.