กือขาใหญ่จอมทองเบี้ยวนัดเคลียร์ใจหนุ่มไรเดอร์ ทนายลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความไดๆทั้งสิ้น สน.บางคอแหลม
กือขาใหญ่จอมทองเบี้ยวนัดเคลียร์ใจหนุ่มไรเดอร์ ทนายลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความไดๆทั้งสิ้น สน.บางคอแหลม
วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น.
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ หนุ่มไรเดอร์ถูก นาย กือ ขาใหญ่จอมทอง ซึ่งเป็นคู่กรณีขับ รถจักรยานยนต์ย้อนศร แล้วเสียหลักล้มเองและรถได้ไถลไปชนกับรถผู้เสียหายแล้วลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าตลาดอินดี้ถนน สุขสวัสดิ์
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 02.18 น ที่บริเวณหน้าตลาดอินดี้ ดาวคะนอง ถนนสุขสวัสดิ์ แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร น้องหนุ่ม ไปรับลูกค้าที่สุขสวัสดิ์ 26 บางประแก้ว มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ ในช่องทางที่ 2 จากซ้ายมือเมื่อมาถึงบริเวณหน้าตลาดอินดี้ มีรถจักยานยนต์ ขี่ ย้อนศร เสียหลักล้ม และไถล มาถูกรถของน้องหนุ่มทำให้รถได้รับความเสียหาย น้องหนุ่มจึงจอดรถ เพราะเป็นห่วงลูกค้าและรถของตัวเอง ส่วนคู่กรณีมีแผลถลอกหลายแห่ง น้องหนุ่ม จึงเดินไปถามคู่กรณีว่าเป็นอะไรไหม และคู่กรณีได้มีปากเสียง น้องหนุ่มจึงเดินกลับไปที่รถมาจอดข้างทาง คู่กรณีอารมณ์ขึ้น เข้ามาหาน้องหนุ่ม ถามว่าเมิงติดเรื่องอะไรกับกูอีก แล้วทำร้าย น้องหนุ่ม จนได้รับบาดเจ็บ บริเวณ กกหู ท้ายทอย ซึ่งตอนนั้นมีพลเมืองดีได้โทรหากู้ภัยฯให้รีบมาที่จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อกู้ภัยฯมาถึง นาย กือ ก็ไล่กู้ภัยฯไปบอกว่าไม่มีอะไร ไปเลย ไปเลย แล้วหาเรื่องคนไปทั่ว จนกระทั่งตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ ก็รีบขี่รถหนีไปทันที และต่อมาน้องหนุ่มจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางคอแหลม
ส่วนในวันนี้วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ในช่วงบ่าย นาย พีรพันธุ์ มีสาย หรือน้องหนุ่ม อายุ 25 ปี ผู้เสียหายจึงเดินทางมาพร้อมกับนาย อู๊ด อายุ 48 ปี เป็นพ่อ และ นาย ทวีศักดิ์ ซ้ายยศ เป็นทนายความของผู้เสียหาย พร้อมด้วยกลุ่มจีเคลื่อนที่เร็ว มาที่ สน.บางคอแหลม เพื่อมาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายเอาไว้ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ตามหมายกำหนดการเดิมจะเป็นวันที่ทั้งนาย กือ ผู้ก่อเหตุกับน้องหนุ่ม ไรเดอร์ผู้เสียหาย นัดพูดคุยทำความเข้าใจกันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่แล้วเมื่อถึงเวลานัดหมาย นาย กือ ผู้ก่อเหตุกลับเบี้ยวนัดแบบหน้าตาเฉยโดยไม่มีคำชี้แจงไดๆทั้งสิ้น ปล่อยให้ น้องหนุ่ม ผู้เสียหายพร้อม พ่อ และทนายความ ต้องเป็นสายบัวรอเก้อไปซะอย่างนั้น
และจากการสอบถามนาย ทวีศักดิ์ ซ้ายยศ เป็นทนายความของผู้เสียหาย กล่าวว่า คือวันนี้ทางเจ้าพนักงานสอบสวนเขาได้รับการประสานจากน้องหนุ่มมาว่าทางผู้ก่อเหตุเขาจะเขามาคุยไกล่เกลี่ยนัดกันในช่วงบ่ายวันนี้ก็คือช่วงเวลา 13.00 น. แต่พอถึงเวลาเขาก็ไม่มาแล้วทางพนักงานสอบสวนเขาก็เลยดำเนินการสอบปากคำน้องในฐานะผูเสียหายอันนี้เป็นเรื่องทางคดีทนายไม่ขอพูดถึงส่วนทางเจ้าพนักงานสอบสวนเขาก็จะออกหมายเรียกทางผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาก่อนซึ่งถ้าออกหมายเรียกสองครั้งแล้วไม่มาทางเจ้าพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับเพื่อมาดำเนินการตามข้นตอนของกฎหมายต่อไป เบื่องต้นทางพนักงานสอบสวนเขาพิจารณาตามคลิปวีดีโอก่อนซึ่งตอนนี้แจ้งขอกล่าวหาในเรื่องของการหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย และ ก็พรบ.ทางบกในส่วนของเรื่องขับขี่รถย้อนศร และในส่วนของเรื่องอาวุธปืน อาวุธมีด แล้วในคลิปวีดีโอก็จะเห็นว่ามีการเตะศรีษะน้องหนุ่มหลายๆครั้งเนี่ยทางเจ้าพนักงานสอบสวนเขาก็จะขอสอบปากคำก่อนแล้วก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนทางเราจะไม่มีการยอมความไดๆทั้งสิ้นและจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุด
นาย อรรถพล คล้ายพยัฆ อายุ 36 ปี ตัวเเทนกลุ่มจีเคลื่อนที่เร็ว กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มจิตอาสามีาคอยช่วยเหลือไรเดอร์ด้วยกันถ้ามีเหตุถึงขั้นกับต้องถูกทำร้ายร่างกายเราก็จะเข้าพื้นที่ก่อนในเบื่องต้นแล้วก็จะเป็นแรงผลักดันให้เป็นกระแสกดดันในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทางกลุ่มของตนพอรู้เรื่องราวของน้องหนุ่มที่โดนทำร้ายร่างกายก็รู้สึกรับไม่ได้แล้วเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นมาบ่อยกับไรเดอร์หลายคนมันไม่จบไม่สิ้นสักที ถ้าคิดว่าคนหาเช้ากินค่ำแบบพวกเรานั้นไม่มีอะไรคิดจะกลั่นแกล้งกันตามอำเภอใจก็ทำกันโดยไม่เกรงกรัวกฎหมายพวกเราก็มองว่าเพื่อนกันเรามีกำลังคนมากพอเราก็ช่วยๆกันในเมื่อเราไม่มีอำนาจอะไรเราก็ใช้แรงกระเพื่อมของสังคม พวกตนก็เข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็อยากจะให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนวันนี้พวกตนมาก็อยากมาให้กำลังใจน้องหนุ่ม อย่างน้อยก็อยากให้น้องรู้ว่าน้องหนุ่มก็ยังมีพี่น้องที่เป็นไรเดอร์ด้วยกันซึ่งไม่เคยรู้จักกันแต่ก็ถือว่าทำอาชีพเดียวกันคอยเป็นกำลังใจให้อยู่และจะคอยดูแลซึ่งกันและกัน