แม่ร้องสื่อคดีไม่คืบ หลังลูกชายเลิกงานขี่รถมุ่งหน้ากลับบ้านพัก ระหว่างทางโดนกลุ่มวัยรุ่น 20 กว่าคน รุมฟันยับ
แม่ร้องสื่อคดีไม่คืบ หลังลูกชายเลิกงานขี่รถมุ่งหน้ากลับบ้านพัก ระหว่างทางโดนกลุ่มวัยรุ่น 20 กว่าคน รุมฟันยับ
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวนงษ์นุช ว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ช่วงกลางดึก ลูกชายของตนหลังเลิกงานก็ได้ขี่รถจยย.กำลังกลับบ้านพักและระหว่างทางซึ่งเหลืออีกประมาณไม่เกิน 100 เมตร ก็จะถึงบ้าน แต่ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่รถจยย.กันมาจำนวนหลายสิบคันซึ่งไม่ได้รู้จักกันหรือเป็นเพื่อนกัน ได้ขี่รถจยย.มาดักหน้าดักหลังก่อนใช้อาวุธมีดยาวรุมฟันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่โชคยังดีมี รปภ.หมู่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าช่วยเหลือไว้ได้ทันก่อนจะมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล บริเวณเส้นถนนคลองแห-คูเต่า ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2568 ตนเองได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินการเอาผิดกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ แต่จนถึงตอนนี้คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ส่วนลูกชายยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จึงเป็นสาเหตุได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามาเพื่อขอควาทเป็นธรรมและช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุและมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อเข้าเยี่ยมและติดตามอาการล่าสุด ก่อนได้พบกับ นางสาวนงษ์นุช จำเนียน หรือ แม่ตุ้ม อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายสุนทร สังข์คำ หรือ น้องต้น อายุ 17 ปี ที่โดนกลุ่มวัยรุ่นนับสิบใช้อาวุธมีดยาวรุมฟันจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพูดคุยสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากกรสอบถาม นางสาวนงษ์นุช จำเนียน หรือ แม่ตุ้ม ได้เล่าว่า ตอนนั้นน้องได้เลิกงาน และได้มีการชวนเพื่อนอีกสองคนไปขับรถเล่นและดูรถซิ่งหรือเด็กแว้นซิ่งรถกัน จากนั้นก็ได้ขี่รถตามหลังกันไป พอไปถึงถนนจุดที่กลุ่มเด็กแว๊นซิ่งรถกันก็ไม่มีเด็กแว้นมารวมตัว จึงได้ชวนกันกลับบ้าน ระหว่างขี่รถมาถึงตรงสี่แยกไฟแดงน้องก็ได้เลี้ยวซ้ายกลับบ้านบ้านพัก ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ได้ขับตรงไป ช่วงที่น้อง กำลังเลี้ยวซ้าย น้องได้หันหน้าไปเห็นมีเด็กวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมาสองคนและชักอาวุธมีดยาวขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นน้องคิดในใจว่าคงไม่ใช่ตน พอใกล้จะถึงบ้านซึ่งเหลือระยะทางไม่เกิน 100 เมตรก็ถึงบ้านพัก ก็มีวัยรุ่นขี่รถขึ้นมาขนาบข้างและน้องก็ได้ขี่รถหนี จากนั้นวัยรุ่นเดิมก็ขี่มาคราบข้างอีกรอบ แล้วก็ดึงเสื้อน้องสั่งให้น้องจอดรถ ตอนนั้นน้องก็คิดในใจว่า ตนผิดอะไร น้องก็เลยตัดสินใจจอดรถดีกว่า ไม่หนีละ จากนั้นวัยรุ่นคนที่ดึงเสื้อก็ลงจากรถก็ใช้อาวุธมีดฟันทันทีพร้อมกับวัยรุ่นคนอื่นๆ ช่วยกันรุมฟัน ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ รปภ. หมู่บ้าน เดินมาที่น้องช่วงที่น้องโดนรุมฟันเสร็จแล้ว รปภ.ก็พาน้องไปนั่งพักที่ป้อมยาม ซึ่งจากการที่สอบถาม รปภ. มีวัยรุ่นมากันกี่คน ซึ่งเค้าบอกว่าวัยรุ่นมากันประมาณ 10-20 คน เบื้องต้นน้องโดนฟันบริเวณกลางศรีษะ ท้ายทอย ส่วนบริเวณที่คอแผลลึกใหญ่มากและที่แขนซ้ายขวา ซึ่งถูกฟันจนเส้นเอ็นขาดทั้ง 2 ข้าง จึงต้องเย็บและใส่เฝือก เอาไว้ เนื่องจากตั้งแต่หัวไหล่ยาวลงมาจนถึงระหว่างนิ้วต้องเย็บ ส่วนแขนขวาก็เย็บเช่นกัน และตอนนี้ทั้งสองข้างยังใช้การไม่ได้ ซึ่งจากการดูสภาพร่างกายแล้วในช่วงรักษาคาดว่าประมาณ 6 เดือน คงจะทำงานอะไรไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องการแจ้งความตนได้เดินทางเข้าแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าเดี๋ยวจะดำเนินการไล่กล้องวงจรปิดเพื่อดูกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ว่าหลบหนีไปทางไหน และอยู่ที่ไหน พร้อมกับตรวจสอบประวัติอีกครั้ง อยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่ง ติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ให้เร็วกว่านี้ซักนิด หรือแจ้งความคืบหน้าให้ตนเองรู้ซักนิดก็ยังดี หลังเข้าแจ้งความจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามาหรือแจ้งอะไรให้ทราบเลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณทางเข้าหมู่บ้านแฟลตเคหะคลองแห ถนนคลองแห-คูเต่า ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้พบกับ นายสรวงศ์ ทวีประภาพ หรือ อู๋ อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. หมู่บ้าน ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
จากการสอบถาม นายสรวงศ์ ทวีประภาพ หรือ อู๋ ได้เล่าว่า ตอนนั้นเป็นเวลาช่วงกลางดึกประมาณตีสามกว่าๆ ก็มีฝูงรถซิ่งหลายสิบคันขี่กันมาตนจึงยืนดู จากนั้นก็จอดตรงหน้าทางเข้าหมู่บ้านแล้วก็เกิดการทะเลาะกันขึ้นตนจึงได้เดินออกไปดู ตนก็เห็นน้องเค้าโดนฟัน ซึ่งยืนให้กลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธมีดยืนฟันรับอย่างเดียว อีกอย่างบ้านน้องเค้าก็อยู่ใกล้ตรงนี้เอง ถ้าน้องเค้าวิ่งหนีคงเจ็บหนักกว่านี้แต่น้องเค้าไม่วิ่งน้องเค้ายืนอยู่ตรงนั้น พอกลุ่มวัยรุ่น ที่เกิดเหตุแยกย้ายกันหลบหนีตนก็เดินไปที่น้องพาน้องมาที่ป้อมยามเพื่อทำบาดแผล พอเดินมาถึงป้อมก็ให้น้องนั่งลงที่ตรงฟุตบาท สภาพแรกที่ตนเห็นคือเลือดอาบทั้งตัว น้องโดนฟันเข้าที่หัวจนเป็นแผลใหญ่และลึกถึงกะโหลกแน่นอน แล้วก็มีที่ต้นคอ ที่แขนซ้ายขวาและระหว่างนิ้ว ซึ่งตอนนั้นอาการของน้องตอนนั้นเหมือนกับคนไม่รู้สึกเจ็บ เพราะโดนฟันจนชาไปทั้งตัวแล้ว ก่อนที่ตนจะจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก่อนซึ่งป้อมตำรวจอยู่ใกล้ใกล้ตรงหน้าวัด จากนั้นตนก็ได้ประคองน้องขึ้นท้ายรถกระบะตำรวจไปโรงพยาบาลพร้อมกัน เมื่อน้องถึงโรงพยาบาลน้องก็สลบหมดสติไปเลยเนื่องจากน้องเสียเลือดเยอะ ส่วนเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่มารุมฟันน้องตอนนั้นได้ถามน้องว่ารู้จักกันไหมน้องบอกว่าไม่รู้จัก
คลิปจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงนาทีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปดักหน้านายสุนทรก่อนจะรุมฟันอย่างบ้าคลั่ง โดยที่นายสุนทรไม่ทันได้ตั้งตัว ขณะที่นายสุนทรกำลังโดนฟันได้มีวัยรุ่นสาว 3 คน ที่ขี่รถจยย.ตามหลังมาและเห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปห้ามทั้งๆที่วัยรุ่นสาวทั้ง 3 คน ไม่ได้รู้จักกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแต่อย่างใด ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่รุมฟันนายสุนทรจนซะใจ ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางเส้นถนนคลองแห-คูเต่า ซึ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองหาดใหญ่ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มที่ไม่ได้ลงไปร่วมรุมฟันก็ได้ขี่รถจยย.หลบหนีไปอีกทางซึ่งเป็นเส้นถนนลพบุรีราเมศวร์ (สายเลี่ยงเมืองหาดใหญ่)
ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวซึ่งอยู่ที่ป้อมยาวตรงทางเข้าหมู่บ้านเคหะสามารถบันทึกช่วงที่กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจยย.มาดักหน้ารถจยย.ของนายสุนทรก่อนจะมีการรุมฟัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียว รปภ.ของหมู่บ้านเห็นเหตุการณ์จึงได้รีบเดินไปที่กลุ่มวัยรุ่นเพื่อเข้าช่วยเหลือนายสุนทร จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุก็ได้ขี่หลบหนีไป รปภ.จึงรีบพานายสุนทรเดินมาที่ป้อมยามเพื่อจะปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากตัวของนายสุนทรเต็มไปด้วยเลือดหลังจากถูกรุมฟัน ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาที่เกิดเหตุเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ทราบว่า กลุ่มที่ไม่ได้ลงไปก่อเหตุนั้นไม่ได้รู้จักกับกลุ่มที่ก่อเหตุแต่อย่างใด เพียงแต่ขี่รถจยย.มารวมเป็นกลุ่มและก็ขี่ตามๆกันมาเท่านั้น ส่วนจุดเกิดเหตุที่นายสุนทรโดนรุมฟันนั้นห่างจากบ้านประมาณไม่เกิน 100 เมตร
พี่เสือ นักข่าว สงขลา
