ข่าวพาดหัว

ชุมพร –ชาวบ้าน งง ผู้นำ ท้องถิ่น รุกป่าโครงการพระเทพ แจ้งตร. ไม่สน บุกยื่น ผวจ.

ชุมพร –ชาวบ้าน งง ผู้นำ ท้องถิ่น รุกป่าโครงการพระเทพ แจ้งตร. ไม่สน บุกยื่น ผวจ.

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันที่ 14 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ศาลากลางจังหวัดชุมพร ชั้น 2 นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รับหนังสือยื่นร้องเรียนจาก นาย สายศิริ มากประดิษฐ์ อายุ 77 อยู่บ้านเลขที่180 ม.4 ต.สองที่น้อง อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร และนางประภา จันทร์สิน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่145/2 ม. 2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร


ขอร้องทุกข์ – ร้องเรียน ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าๆ ได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมากจากพระราชคำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักริสิรินธร รัฐสีมาคุณากร ปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ได้พบกลุ่มบุคคลราย จำนวน 7 คน กำลังแพ่วถางป่าในพื้นที่ ดังกล่าว ข้าฯ และนางประภา จันทร์สิน ได้เข้าขัดขวางห้ามปรามและสอบถามบุคคลดังกล่าว ได้ความว่าได้รับจ้างจาก ผู้นำ ท้องถิ่น ต.สองพี่น้อง (ข้าฯ ไม่ทราบชื่อกลุ่มบุคคลเพศชายดังกล่าว แต่อย่างใด) ในที่สุดกลุ่มคนดังกล่าวได้หยุดการกระทำและยังให้สัญญาว่า จะไม่มากระทำอีก


ข้าฯ ได้เดินทางกลับมายังบ้านเลขที่ 145/2 ม.2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของนาง
ประกา จันทร์สิน ได้รับโทรศัพท์จากนางรัชนี มากประศิษฐ์ แจ้งว่าต่อข้าฯ ว่านายชาสี น้อยนาราย ตำแหน่งสารวัตรกำนัน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร ว่าให้เรียกตัวนายสายศิริ มากประศิษฐ์ ให้กลับลงมาจากพื้นที่ป่า เนื่องจากนายสายศิริฯ เข้าไปขัดขวางการแล้วถางป่า ของกลุ่มบุคคลที่เข้าไปบุกรุกแพ่วถางป่าอยู่ในขณะนั้น
จึงเรียนมายังท่านผู้ว่าฯ เพื่อโปรดทราบและดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
นาย สายศิริ มากประดิษฐ์ เล่าว่า ผมเป็นคนเก่าคนแก่ของโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชและได้เข้าไปดูและตรวจสอบในพื้นที่เป็นประจำเพราะว่าผมมีใจรักในพื้นที่ดังกล่าว ในวันที่ 14 มีนาคม 68 ก็ได้เจอกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนเจ็ดคนโดยไม่ทราบชื่อว่าชื่ออะไรกันกับลักษณะหน้าตาก็จำกันไม่ค่อยได้เพราะมันอยู่ในที่มืดมัว แสงก็ไม่มากในยามค่ำเอาเป็นว่าไม่รู้จักสักคนหนึ่งในเจ็ดคนที่มานั้นโดยไม่ทราบว่าเป็นแรงงานในท้องถิ่น หรือแรงงานต่างถิ่น บอกไม่ได้ในวันนั้นก็ได้เดินทางขึ้นไปดูตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับภรรยาก็เข้าไปห้ามปรามที่เค้าที่กำลังแพ่วถางป่า โดยใช้มีดงอ มีดขอ มีดง้าวกำลังถางป่าโดยไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างไรในวันนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรคิดแต่ว่าคงต้องเป็นวีรชนของบ้านเมือง กล้าที่จะห้ามปราม โดยชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดคนได้แพ่วถางป่าไปประมาณ 10 ไร่ พื้นที่ในโครงการทั้งหมดก็ประมาณ 1900 ไร่ปัจจุบันนี้หน่วยงานที่เข้ามาดูแลก็จะเป็น ชุมชนช่วยกันดูแลพื้นที่และมีหน่วยงานเกษตรและสหกรณ์เข้ามาช่วยดูแล บางแปลงก็จะมีเกษตรจังหวัด บางแปลงก็จะเป็นพืชสวนเข้ามาดูแลในพื้นที่ทั้ง 1900 ไร่

หลังจากที่วันที่ 14 มีนาคม 68 ที่เกิดเหตุ แพ่วถางป่า ก็ไม่มีกลุ่มคนมาแพ่วถางป่าอีก ในวันนี้มีความกังวลอยู่อย่างเดียว เพราะผู้กระทำเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นผู้นำ ท้องถิ่น ก็มีความเกรงใจ พอสมควร เกรงว่าเจ้าหน้าที่ไม่กล้าที่จะดำเนินการเอาถู เอาผิดกับผู้นำ ท้องถิ่น หลังจากที่ได้พบกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรแล้วก็ดีใจท่านให้สัญญาจะติดตามดูแลในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามความเป็นจริงครับ
นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าฯแจ้งว่าผู้ร้องเข้ามาร้องขอให้ติดตามในขณะนี้มันเป็นคดีความที่ สภ. สลุย อยู่แล้วให้ผู้ว่าฯติดตามเรื่องมันเป็นไปยังไงเดี๋ยวสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงแล้วผมก็จะไปดำเนินการตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วยผู้สื่อข่าวสอบถามผู้บุกรุกเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านผู้ว่าจะดำเนินการแบบไหนยังไง เราต้องดูข้อเท็จจริงเสียก่อนตอนนี้จากข้อมูลในเบื้องต้นเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูตามพยานหลักฐานที่ปรากฏถ้ามีความผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการทางวินัยอีกส่วนหนึ่งก็จะดำเนินการ อีกทางหนึ่ง หน่วยงานรัฐจะดูแล ความปลอดภัย ของผู้แจ้ง ให้ทราบ มีผู้ที่มากระทำความผิดอย่างไร ความปลอดภัยของผู้แจ้งเป็นหน้าที่ของภาครัฐอยู่แล้วที่ต้องดูแลถ้าผู้แจ้งผู้ร้องได้รับการคุกคามก็สามารถแจ้งหน่วยงานของรัฐได้เลยตอนนี้ขอให้ตามข้อเท็จจริงเสียก่อนขอแจ้งในขณะนี้ได้เป็นคดีแล้วเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย