เปิดภาพกล้องวงจรปิดวินาทีหนุ่มวัย 24 ปี ขี่ จยย. ตัดเลนถูกรถพ่วงทับดับสลดคาถนนย่าน พระราม 2
วันที่ 3 เมษายน 2568 เวลา 10.20 น.
ร้อยตำรวจเอก ธวัช สุวรรณดี รอง สว.สอบสวน สน.บางมด รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วง 22 ล้อทับจักรยานยนต์ บริเวณแยก บางประแก้ว และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็น ชาย 1 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้มประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บนถนนพระรามที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้าแยกบางประแก้ว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 i สีแดง ทะเบียน อฬน 247 กรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นถนนและใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ซึ่งทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย จารึก อายุ 24 ปี การแต่งกายสวมใส่เสื้อโปโร แขนสั้นสีขาว สวมคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ สวมใส่กางเกงยีน์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว อยู่ในลักษณะนอนตะแคงข้างอยู่บนพื้นถนน ศรีษะถูกล้อรถพ่วงทับแบนราบกับพื้นถนน สมองกระจายเกลื่อนเต็มพื้น ใบหน้าเละ หมวกกันน็อคแตกกระจาย เสียชีวิตทันทีภายในที่เกิดเหตุ ส่วนถัดออกไปอีกประมาณ 80 เมตร ใกล้เคียงป้อมตำรวจจราจรบริเวณแยกบางประแก้วทิศทางมุ่งหน้าเข้าสู่ ถนน สุขสวัสดิ์ พบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ UD สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 82- 4096 สมุทรสาคร ส่วนท้ายพ่วงทะเบียน 80 – 8187 สมุทรสาคร บันทุกเสาปูนขนาดใหญ่มาเป็นจำนวนมากจอดอยู่ ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้ขับขี่รถพ่วงคันดังกล่าวชื่อ นาย สุทัศ อายุ 48 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุ
และจากการสอบถาม นาย สุทัศ ผู้ขับขี่รถพ่วงคันดังกล่าวบอกว่า ตนวิ่งมาจากทางถนนเส้นพระรามที่ 2 มาตามทางแบบปรกติกำลังจะไปบางนาพอดีรถของตนติดไฟแดงแล้วพอหลุดไฟแดงก็วิ่งไปเรื่อยๆ ตนก็ไม่รู้ว่าเหยีบมอเตอร์ไซค์ด้วยเขาบอกว่าพี่ๆเหยียบรถเครื่องเหยียบมอเตอร์ไซค์ ตนขับรถพ่วงบันทุกเสาเข็มมา พอมีคนมาเรียกตนว่าตนเหยียบรถมอเตอร์ไซค์ ตอนนั้นตนก็รู้สึกตกใจมากตั้งแต่ขับรถพ่วงมาก็ไม่เคยเหยียบใครซักที แล้วก็ไม่เคยขับรถเฉียวชนใครซักทีด้วย ตนยืนยันเลยว่าตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
แล้วจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณดังกล่าวพบว่ารถจักรยานยนต์ซึ่งมี นาย จารึก ( ผู้เสียชีวิต ) เป็นผู้ขับขี่ ได้ขี่รถจัรยานยนต์ตัดเลนเข้ามาก่อนที่จะเสียหลักมุดเข้าใต้ท้องรถพ่วงคันดังกล่าวจนกลายมาเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดอย่างที่เห็น ส่วนรถพ่วงคันดังกล่าวเขาก็ขับมาตามเลนแบบเรื่อยๆ และเป็นรถพ่วงขนาดใหญ่พอเวลาเหยียบโดนอะไรก็จะไม่มีความรู้สึก แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็มีจักรยานยนต์ขี่ตามมาบอกรถพ่วงคันดังกล่าวถึงได้รู้ตัวว่าตนเองได้เหยียบจักรยานยนต์ไปแล้ว และด้วยความที่รถพ่วงบันทุกเสาเข็มปูนขนาดใหญ่มาเป็นจำนวนมากบวกกับรถพ่วงมีขนาดใหญ่ด้วยก็เลยมีน้ำหนักค่อนข้างมากจะเบรค หรือจะหยุดรถทันที่ก็จะเป็นเรื่องยาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชได้ตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุแล้ว จุงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ส่วนผู้ขับขี่รถพ่วงคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.บางมด แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
