กู้ภัยเร่งช่วย ผู้ช่วยกัปตันเรือโยง ถูกไฟคลอกหลัง เครื่องยนต์เรือ ขัดข้องเกิดประกายไฟ เจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 30 เมษายน 2568 พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกภายในเรือบริเวณใต้สะพานภูมิพล 1 ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และเรือได้นำตัวผู้บาดเจ็บมาจอดท่าเทียบเรือวัดบางพึ่ง จากนั้นจึงได้ประสานรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลบางประกอก 3 พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจที่เกิด ภายในซอยพระราชวิริยาภรณ์ 16 หรือซอยวัดบางพึ่ง ท่าเทียบเรือวัดบางพึ่ง หมู่ที่ 1 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ภายในเรือลากจูง(เรือโยง)ขนาดใหญ่ความยาว 19 เมตร ความกว้าง 5 เมตร สัญชาติไทย ชื่อเรือ ทรัพย์โสพล ข้างเรือพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย นอนหงายหน้า สวมเสื้อแขนสั้นลายเสือดาว กางเกงยีนส์ขาสั้น ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยถูกไฟคลอกเบิร์นกว่า 60-70% ของร่างกาย ทราบชื่อต่อมา น.ส.เบญจพร บัวบิน อายุ 37 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจึงได้ทำการปฐมพยาบาล ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางจากโดยอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบทราบว่า เรือลำดังกล่าวมากันทั้งหมด 5 คน โดยมี 1.นาย สุรชัย(สามี) แสงฉาย อายุ 36 ปี คนขับเรือ (กัปตันเรือ) / 2.น.ส.เบญจพร(ภรรยา) บัวบิน อายุ 37 ปี เป็นอินเทอร์เนีย(ฝ่ายช่างกลเรือ) / 3.เด็กชาย อายุ 12 ปี / 4.เด็กหญิง อายุ 10 ปี (เป็นลูกของนายสุรชัยและนางสาวเบญจพร) / 5.นาย ศิริชัย จันทโชติ อายุ 27 ปี (ผู้ช่วยกัปตัน มีหน้าที่คอยเปลี่ยนสลับกันขับเรือ) ได้ลากเรือโป๊ะบรรทุกถ่านหินมาทั้งหมด 3 ลำ มาจากเกาะสีชัง จ.ชลบุรี และกำลังมุ่งหน้าไป จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นระยะทาง 100 ไมล์ทะเลเท่ากับ 170 กม.พอมาถึงช่วงบริเวณใต้สะพานภูมิพล 1 เครื่องยนต์เรือเกิดขัดข้อง มีเสียง Fire Alarm เตือน หรือความร้อน(โอเวอร์ฮีท)ขึ้นที่หน้าจอของเรือ จากนั้น นาย สุรชัย ได้ให้ น.ส.เบญจพร ลงไปตรวจสอบภายในห้องเครื่องยนต์ของ ซึ่งอยู่ใต้เรือลำดังกล่าว หลังจากลงไปตรวจสอบได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดและมีประกายไฟพุ่งขึ้นมาจากใต้เรือ นาย สุรชัย จึงรีบวิ่งลงมาดู เห็นน.ส.เบญจพร ขึ้นมาจากห้องเครื่องยนต์เรือ ด้วยสภาพที่ได้รับบาดเจ็บทั้งตัว จากนั้นจึงได้แจ้งวิทยุสื่อสาร ขอความช่วยเหลือต่อเรือที่อยู่ใกล้เคียง มีเรือใกล้เคียงมาช่วยเหลือ และได้ช่วยกันนำถังดับเพลิงมาดับไฟที่ใต้เรือจนสามารถดับไฟไว้ได้ ส่วนเรือโป๊ะที่ลากมาตนได้ทิ้งสมอจอดอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้นำเรือพร้อมกับคนเจ็บเข้าฝั่งท่าเทียบเรือท่าน้ำวัดบางพึ่ง และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน จะตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเหตุที่แท้จริง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่จะรอให้รักษาตัวให้หายเสียก่อน ก่อนจะมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ. พระประแดง
จากการสันนิษฐานเบื้องต้น อาจจะเกิดจากการที่ เครื่องยนต์มีความร้อนสูง จนทำให้เกิดประกายไฟที่เครื่องยนต์ จนไปโดนสายน้ำมันที่อยู่ใกล้กัน และทำให้เกิดระเบิดดังกล่าวขึ้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ จะตรวจสอบให้แน่นอนอีกครั้ง
นายสุรชัย แสงฉาย อายุ 36 ปี คนขับเรือ เล่าว่า ตนเองเป็นคนขับเรือ ส่วนแฟนเป็นอินเทอร์เนีย คนดูแลเครื่องยนต์ ซึ่งตนมาจากเกาะสีชังและกำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดอยุธยา พอมาถึงช่วงจุดเกิดเหตุใต้สะพานภูมิพล 1 เครื่องยนต์ขึ้นเตือน ว่ามีความร้อนสูงตนจึงให้แฟน ลงไปตรวจสอบ ซึ่งขณะนั้นเรือกำลัง แล่นอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร แต่คาดว่าด้วยความร้อนของเครื่องยนต์ จนทำให้สายไฟละลายและเกิดประกายไฟไปติดกับสายน้ำมันที่มันขาดอยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้เกิดระเบิดดังกล่าวขึ้น จากนั้นตนจึงรีบนำตัวแฟนออกมา จึงพาเรือเข้าถ้าเทียบเรือ ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยเร่งด่วน ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนก็ จะนำเรือไปจอด อยู่ที่ท่าเทียบเรือสาธุประดิษฐ์ เพื่อตรวจเช็คเครื่องยนต์เรือ แต่ดันมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก่อน
นายศิริชัย จันทโชติ อายุ 27 ปี (ผู้ช่วยกัปตัน มีหน้าที่คอยเปลี่ยนสลับกันขับเรือ) เล่าว่า ตนเอง ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนช่วง เกิดเหตุ เพราะว่าตนนั่งอยู่หน้า เรือ ไม่ อีกทีก็คือตอนที่มีไฟ ลุกขึ้นมาจากใต้ท้องเรือ และมี นางสาวเบญจพร ขึ้นมาด้วยอาการที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนมาทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วยกัปตันเรือหรือ ช่วยกันขับเรือ ซึ่งตนขับจาก เกาะสีชังจนมาถึงช่วงทางเข้าปากน้ำ ตั้งแต่ทางเข้าปากน้ำตนก็เปลี่ยนให้นายสุรชัยมาขับต่อจนมาถึงใต้สะพานภูมิพล 1
*******************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ