ลูกชายของผู้เสียชีวิตร้องกันจอมพลังหลังอดีตผู้ใหญ่บ้านบุกยิงพ่อแม่เสียชีวิต
จากกรณี นาย มานิตย์ เผือกวัฒนะ อายุ 72 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลสำโรง ชักปืนกระหน่ำยิง นาย อำนาท เผือกวัฒนะ อายุ 55 ปี (หลานชาย) และ นางสุรินทร์ เผือกวัฒนะ อายุ 50 ปี (หลานสะใภ้) ดับคาบ้าน ย่านสำโรงใต้ ก่อนจะขับรถเก๋งหลบหนีไป ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวเอาไว้แล้ว ที่ จ.ชลบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ หน้าบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอย บุญถนอม ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2568
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่ สภ.สำโรงใต้ ลูกชายของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติพี่น้องในครอบครัวประมาณ 10 คน ได้เดินทางมารอพบกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง และเตรียมมอบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ ที่ นายมานิตย์ บุกเข้ามายิงผู้เสียชีวิตทั้งสองรายถึงในรั้วบ้าน ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ขณะเดียวกัน ทางหลานของ นายมานิตย์ ได้มาให้ข้อมูลกับนักข่าว พร้อมเปิดโพสต์ที่ทางญาติของฝ่ายผู้เสียชีวิตได้มีการโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ค ชื่อ Tanatcha Teay ระบุว่า เหตุการณ์นี้ กูจะเอาให้ถึงที่สุด พยายามฆ่า ถ้าพ่อกูไม่รอดก็ตายยกครัว
หลังจากที่ กัน จอมพลัง เดินทางมาถึง สภ.สำโรงใต้ ได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวประมาณ 2-3 นาที และให้คำยืนยันกับครอบครัวว่าจะหาทางออกให้ดีที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะพาครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าไปพูดคุยกับทาง ผู้กำกับ สภ.สำโรงใต้ และหัวหน้าชุดสืบสวน ภายในห้องสืบสวน สภ.สำโรงใต้
หลังพูดคุยเสร็จสิ้น กัน จอมพลัง ออกมาเผยกับสื่อว่า วันนี้มาติดตามคืบหน้าคดีให้ ตนสอบถามทางผู้กำกับเผยคืบหน้าคดีว่า ทำไปเยอะแล้ว ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐาน เมื่อวานตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ประสานให้ทางหลวง และ สภ.แสนสุข ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ก่อนนำตัวกลับมาตรวจเขม่าดินปืนทำงานอย่างละเอียดมาก วันนี้รอสอบปากคำผู้ก่อเหตุ แต่ฝั่งลูกชายของคนตายสอบไปแล้ว ซึ่งลูกชายคนตายให้การว่าผู้ก่อเหตุมีการเล็งปืนมาที่น้องจะยิงใส่น้องด้วย
ในส่วนของสาเหตุเป็นเพราะเรื่องกำแพงที่กำลังต่อเติม ลูกชายปรึกษาช่างว่าจะทำอย่างไร ช่างบอกลองเจาะกำแพงไหม แต่ยังไม่ได้เจาะกำแพง จากนั้นผู้ตายมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุจนหัวร้อนเอาปืนมารัวกว่า 10 นัด จนพ่อแม่ของน้องเสียชีวิต
ส่วนที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดก ตนมองว่าเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว ไม่ใช่อะไรไม่ถูกใจก็ไปเอาชีวิตคนอื่นไม่มีสิ่งของใดสำคัญเท่าชีวิตคนคนหนึ่ง กำแพงไม่ได้สำคัญไปมากกว่าชีวิตคน ก่อเหตุไปมีแต่เสียกับเสีย
ส่วนข้อหาเบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา พยายามฆ่า / อาจตั้งข้อหา / พกพาอาวุธปืน โดยจะดูที่พยานหลักฐานเป็นหลัก
เดี๋ยวช่วงบ่ายตนจะไปที่บ้าน เบื้องต้นย่าที่เป็นแม่ของผู้ตายยังไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายตาย เดี๋ยวหลังจากนี้ พม. จะลงพื้นที่ไปด้วย กังวลกลัวคุณย่าทำใจไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฝั่งคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับน้องเลย ซึ่งน้องพร้อมคุย คุยได้ เพราะอยากจบปัญหา ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก หากฝั่งคู่กรณีฟังอยู่นี่คือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะคุยจะเคลียร์ให้จบ
ด้าน นายปลั๊ก อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนต้องการให้พี่กันเข้ามาช่วยเพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หลังจากนี้คงจะอยู่บ้านหลังเดิมต่อไป เพราะพ่อแม่สร้างมาให้อยู่ ตนกังวลว่าหลังจากนี้จะเกิดปัญหาซ้ำอีก หากเป็นเช่นนั้นตนคงจะพาย่าไปอยู่ที่อื่น ต้นสายปลายเหตุนั้นตนไม่ทราบ ทราบเพียงว่าทะเลาะกันมานานเป็นสิบปีแล้ว หลักๆคือสองฝั่งนั้นด่ากันไปมา ยอมรับว่าอยากให้ปัญหาจบ มันคาราคาซังมานาน ไม่อยากให้สูญเสียอีก ส่วนทางคดีให้พี่กันคุยเพิ่มเติม
ด้าน นายพิชัย อายุ 59 ปี พี่ชายนางสุรินทร์ ผู้ตายเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า สามีภรรยาเพิ่งมาถึงบ้านหลังเกิดเหตุได้แค่หนึ่งคืน ก็เกิดเรื่องขึ้นทั้งทั้งที่จริงๆแล้วตั้งใจมาทำรั้วกั้นไม่ให้เห็นฝั่งบ้านคนก่อเหตุ โดยทางครอบครัวแค่เรียกช่างมาคุยว่าจะมีการเจาะ คือ แค่คิดกันว่าจะเจาะ แต่ยังไม่ได้เจาะอะไรทั้งนั้น ซึ่งที่ทำรั้วเพราะจะพาย่าไฝกลับมาอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุหลังดังกล่าว ไม่ต้องการให้มีเรื่อง อยากให้จบปัญหาไป
ส่วนที่ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องทะเลาะกันตนไม่ทราบเรื่อง เท่าที่รู้ก็ทราบแค่ว่าสองฝ่ายทะเลาะด่าทอกันไปมา นานแล้ว/ส่วนนายอำนาจ และนางสุรินทร์เองไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เคยด่าทอใดๆ ขณะที่ 2 สามีภรรยาที่เสียชีวิตไม่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะไปทำงานที่ชลบุรีมาเป็น 10 ปีแล้ว
ทางครอบครัวต้องดูแลคุณย่าที่ได้รับบาดเจ็บจากการหูฝาดนายมานิตผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปจึงเสียชีวิตในบ้านและยังเป็นคดีค้างเก่ากันอยู่เลย ซึ่งเป็นคดีระหว่างนายมานิตย์ คนก่อเหตุยิง กับผู้เป็นแม่ของนายอำนาจ คนตาย
นอกจากนี้ ทางครอบครัวคนตายขอฝากแก้ข่าวเรื่องที่มีคลิปที่นางไฝด่าทอฝั่งบ้านคนก่อเหตุ ยืนยันไม่จริง เพราะนางไฝไม่ได้พักในบ้านดังกล่าวมานานแล้ว ไม่ทราบว่าทางฝั่งคนก่อเหตุไปเอาคลิปจากไหน อยากขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวตนด้วย เพราะสูญเสียนายอำนาจ และนางสุรินทร์ เสาหลักของ 2 ครอบครัว และลูกคนตายทั้งสอง มี 1 คนยังอยู่ในวัยกำลังเรียน แต่น่าเศร้าที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไป
ด้าน พ.ต.อ ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นาย มานิตย์ เผือกวัฒนะ หรือ อี๊ด อายุ 73 ปี ผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายและหลานสะใภ้เรียกช่างมาต่อเติมกำแพงให้สูงขึ้น โดยจะมีการเจาะรูกำแพง เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาไม่พอใจและมีปากเสียงด่าทอกัน ด้านผู้ตายมีการพูดจาท้าทายเกิดขึ้น จนกระทั่งผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงหลานทั้งสองเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
นอกเหนือแรงจูงใจในวันเกิดเหตุแล้ว ยังมีแรงจูงใจเหตุการณ์ในอดีตที่ผู้ต้องหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับ นาง พนอ เปรมปรีดิ์ อายุ 80 ปี หรือ ยายไฝ แม่ของ นายอำนาจ สนับสนุนอีกด้วย
หลังก่อเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปยังจังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด โดยอ้างว่าในอดีตเคยมาเที่ยวที่ชลบุรี และต้องการที่จะตั้งหลัก เช่าโรงแรมนอนสัก 1-2 คืน ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ด้วยตนเอง กระทั่งมาถูกจับในที่สุด
พนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / 2.พยามฆ่า / และ 3.พรบ.อาวุธปืน ขณะที่ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
******************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ