ทำร้ายร่างกายพาดหัวข่าว

รวบหนุ่มเมียนมาร์เมาสุราหา ‘สากกะเบือ’ ไม่เจอคว้ามีดจ้วงแทงเมียดับสลดต่อหน้าลูกวัย 5 ขวบ

รวบหนุ่มเมียนมาร์เมาสุราหา ‘สากกะเบือ’ ไม่เจอคว้ามีดจ้วงแทงเมียดับสลดต่อหน้าลูกวัย 5 ขวบ

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 30 ต.ค. พ.ต.ท.กมเลศ พูสุขโข รอง ผกก.ป.สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีด มีผู้เสียชีวิต บริเวณบ้านเลขที่11/1-3 ซอย เพชรเกษม 67 แยก 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม และฝ่ายสืบสวน, ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.เพชรเกษม, แพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้ง


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ สูง 2 ชั้น แบ่งให้เช่า ที่ชั้นล่างภายในห้องในสุดบนฟูกพบศพนางนาว นู วา อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมาร์ สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อกล้ามสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณลำคอ 1 แผล พบอาวุธมีดยาว รวมด้ามประมาณ 20 ซม. จำนวน 1 เล่ม และมีอุปกรณ์เครื่องครัว ครก, สากกะเบือ และน้ำมันพืช วางกระจัดกระจายอยู่ เจ้าหน้าที่ยังเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายจอ จอ แอ อายุ อายุ 30 ปี เป็นสามีผู้เสียชีวิต อยู่ในอาการมึนเมาให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงภรรยาตนเอง เนื่องจากทะเลาะกันและได้นำอาวุธมีดไปทิ้งบริเวณห้องใกล้ ๆ จึงถูกควบคุมตัวไปโรงพัก

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ และผู้ตายเป็นสามีภรรยากัน และอาศัยอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ พร้อมกับลูกสาวอีก 3 คน ลูกติด 2 คน คนโต อายุ 20 ปี คนกลาง อายุ 12 ปี ส่วน ลูกสาวคนเล็ก อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้ตายกับผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุประมาณสองทุ่ม ผู้ก่อเหตุเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน ขณะนั้นเด็กๆ กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่กับแม่อยู่ในห้อง รวม 3 คน ปรากฎว่าผู้ก่อเหตุหา “สากกะเบือ” จะทำกับข้าวไม่เจอ จึงมีปากเสียงกัน จังหวะที่ลูกสาวทั้งสองคนนั่งอยู่ข้างๆ แม่ เกิดโต้เถียงกันไปมา กระทั่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงคอผู้ตาย จากนั้นผู้ตายได้วิ่งออกไปหาญาติ ๆ กันเพื่อให้ช่วย ก่อนจะเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้อาสานำส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

/