อดีตเพื่อนรักโหดจ้วงแทงหนุ่มบางบ่อดับคาถนนห่างจากบ้านไม่ถึง 500 เมตร หลังเจอกันโดยบังเอิญ
อดีตเพื่อนรักโหดจ้วงแทงหนุ่มบางบ่อดับคาถนนห่างจากบ้านไม่ถึง 500 เมตร หลังเจอกันโดยบังเอิญ
อดีตเพื่อนรักเจอกันโดยบังเอิญ กลับกลายเป็นศัตรู! นายกิตติพงศ์ เชื้อสุวรรณ อายุ 28 ปี ชาวบางบ่อ ถูกแทงดับคาถนนห่างบ้านไม่ถึง 500 เมตร ตำรวจ สภ.บางบ่อ กดดันหนัก จน นาย รุจิภาส (หรือก็อต) เพิกแสง อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ (ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิต) เข้ามอบตัว ยอมรับสู้กันจริงแต่ปัดเตรียมอาวุธ ด้าน พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งสอบละเอียดและเร่งหามาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งเหตุแทงกันตาย บริเวณซุ้มวัดสุคันธาวาส หมู่ที่ 8 ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น
ที่เกิดเหตุบริเวณทางเข้าวัดสุคันธาวาส เจ้าหน้าที่ พบ ร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ถูกของปลายแหลมแทงเข้าบริเวณไหปลาร้าข้างซ้าย 1 แผล นอนจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นายกิตติพงศ์ เชื้อสุวรรณ อายุ 28 ปี เบื้องต้นจึงปิดกั้นจุดเกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ส่วน ผู้ก่อเหตุนั้นหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตนั้นเคยเป็นเพื่อนรักกัน โดยที่ทั้งคู่เคยมีปัญหากันมานานแล้วจนทางผู้เสียชีวิตต้องย้ายบ้านหนี เพราะตอนแรกอยู่ซอยเดียวกัน จนวันนี้ทางผู้เสียชีวิตไปขี่รถมอไซค์ไปส่งคนมาเจอกับผู้ก่อเหตุที่ขี่รถมอไซค์มาซื้อน้ำแข็ง ผู้ก่อเหตุจึงขี่มอไซค์ปาดหน้าจนรถมอไซค์ของผู้เสียชีวิตล้ม ก่อนที่จะมีการโต้เถียงชกต่อยกันก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้ของปลายแหลมแทงผู้เสียชีวิตไป 1 ครั้ง จนบาดเจ็บและเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุหลังจากก่อเหตุก็ได้ขี่มอไซ๕หลบหนีไป
จากการสอบถาม แม่ผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่าพร้อมร่ำไห้ว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายของตนไปส่งคนงาน เพราะว่าเมียเขาไม่มารับสักที ลูกชายของตนจึงไปส่ง แต่ตนก็ไม่อยากให้เขาออกไปห้ามเขาแล้ว ลูกชายตน กับคนก่อเหตุ ก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่พวกเขามีเรื่อง ทะเลาะกันมาตลอด ตอนงานหลวงพ่อปาน ลูกชายของตนขับรถอยู่ดีๆ คนก่อเหตุ ก็ใช้สนับมือต่อยเข้าที่หลังหู บ้านของคนก่อเหตุ อยู่แถวนี้ ตนเคยอยู่ในซอยเดียวกันกับเขา แต่ก็ย้ายหนีออกมา เพราะไม่อยากให้ลูกชายทะเลาะกับเขา ลูกชายของตนบอกว่า ไม่ได้ยุ่งกับเขาแล้ว แต่คนก่อเหตุยังมาหาเรื่องลูกชายตลอด ลูกชายของตนเป็นคนดี
ส่วน นางสาวสุนิสา นาคเกิด อายุ 27 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ตายขับรถไปส่งคนมา แล้วก็มาเจอกับอีกฝ่ายที่กำลังขับรถมาซื้อน้ำแข็งพอดี พอทั้งสองคนเจอกันจึงมีการล้มรถและต่อยกันอยู่สักพัก ก่อนที่ผู้ตายจะโดนอีกฝ่ายใช้เหล็กแทงบริเวณไหล่ไป 1 ที แต่ผู้ตายก็สู้เหมือนกันทำให้อีกฝ่ายมีบาดแผลแตกบริเวณปาก แต่พอแทงเสร็จเขาก็ขับรถหนีไปเลย
ต่อมา พล.ต.ต. ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ แพทย์นิติเวชสถาบันรามาจักรีนฤบดินทร์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ นายกิตติพงศ์ เชื้อสุวรรณ อายุ 28 ปี ที่ถูก นาย รุจิภาส (หรือก็อต) เพิกแสง อายุ 28 ปี ก่อเหตุใช้เหล็กปลายแหลมจ้วงแทงเข้าที่ไหปาร้าข้างซ้ายจนทะลุด้านหลังเสียชีวิต โดยหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ด้านรองผู้บังคับการได้นำกำลังเข้าไปที่บ้านพักของ นายก็อต ซึ่งอยู่ห่างที่เกิดเหตุเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่ไม่พบตัว ผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด มีเพียงบิดาของผู้ก่อเหตุออกมาให้ข้อมูลของลูกชายพร้อมระบุว่าอยู่ในระหว่างเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายมอบตัว
ขณะที่ พล.ต.ต. ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนและชุดทำงานไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยหลังจากที่ผู้บังคับการออกคำสั่งกำชับการติดตามตัวได้ไม่ถึงชั่วโมง ปรากฏว่าฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางบ่อ สามารถกดดันผู้ต้องหาจนเข้ามอบตัวก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำเบื้องต้นพร้อมทั้งเก็บ DNA ที่ตัวผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้สัมภาษณ์ บอกว่า เท่าที่สอบถามกับทางผู้กำกับ สภ.บางบ่อ และเจ้าที่ฝ่ายสืบสวน ทราบว่ามีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และได้บังเอิญมาเจอกัน จึงได้มีการลงไม้ลงมือแต่อีกฝ่ายมีอาวุธ จึงถูกแทง เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุ ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วและเชื่อว่าทาง สภ.บางบ่อ จะจับกุมผู้ก่อเหตุได้โดยเร็ว วันนี้ที่ผู้การมาเพื่อมาให้กำลังใจ และดูการทำงานของทางตำรวจว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นที่น่าพอใจ เพราะทาง สภ. ทราบตัวคนร้ายได้เร็ว คดีปิดได้แน่นอน และกำชับให้ทาง สภ. หามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และหวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
ขณะที่ นายก็อต ผู้ก่อเหตุให้การกับทางตำรวจ โดยอ่างว่า ในตอนนั้น ตนไปซื้อน้ำแข็งในโรงน้ำแข็ง ขณะที่กำลังจะกลับ ตนเห็นว่ามีรถขับมาด้านหลัง คือเต่าซึ่งเคยเป็นเพื่อนกับตน ก่อนที่เขาจะตะโกน แล้วลงจากรถมาต่อยหน้าตน ตอนนั้นตนคล่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ เขาเดินมาต่อยจนตนตกจากรถมอเตอร์ไซค์ ตนรู้สึกเจ็บจึงจับมือของเขาไว้ แล้วมีการสู้กันอยู่สักพัก ตนไม่รู้ว่าเขาโดนอะไรบ้าง พอมีคนมาห้ามตนก็ลุกออกมาเลย ยืนยันว่าอาวุธที่ใช้ไม่ใช่ของที่ตนเองเตรียมไปแต่เป็นของ นายเต่า ที่พกติดตัวมา หลังเกิดเหตุตนจำไม่ได้ว่าอาวุธดังกล่าวหล่นหายที่ไหน ตำรวจยังไม่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การและอยู่ระหว่างขยายผลหาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ส่วน นาย ยศภัทร เพิกแสง อายุ 52 ปี บิดา ของ นายก็อต บอกว่า ปมเหตุมาจากความแค้นสะสมที่ลูกชายตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่ ลูกชายของตน เคยโดนแทงได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ ตนเคยไปแจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าทางคดีแต่อย่างใด จนเกิดการบาดหมางกันมาตลอด ส่วนเรื่องปัญหาของทั้งสอง ก็มาจากปัญหาวัยรุ่นที่เขาทะเลาะกัน มันคงจะสะสมมาเรื่อยๆ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
**********************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
