ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

“ลาก่อนโลกใบนี้” หญิงวัย 46 สิ้นหวังในชีวิต โผสู่สายน้ำเจ้าพระยาในคืนวันลอยกระทง — ทิ้งจดหมายสุดสะเทือนใจ “เหนื่อยกับโลกใบนี้เหลือเกิน”

“ลาก่อนโลกใบนี้” หญิงวัย 46 สิ้นหวังในชีวิต โผสู่สายน้ำเจ้าพระยาในคืนวันลอยกระทง — ทิ้งจดหมายสุดสะเทือนใจ “เหนื่อยกับโลกใบนี้เหลือเกิน”

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568

เสียงสวดมนต์และแสงเทียนจากกระทงที่ลอยละล่องในสายน้ำเจ้าพระยาเมื่อคืนวันเพ็ญที่ผ่านมานั้น อาจเป็นเพียงภาพแห่งความสุขของผู้คนมากมาย แต่ในค่ำคืนเดียวกันนั้นเอง… มันคือ “คืนสุดท้ายของชีวิตหญิงคนหนึ่ง” ที่เลือกจะปล่อยตัวเองให้จมหายไปกับสายน้ำแห่งความทุกข์

เมื่อเวลา 11.32 น. ร้อยตำรวจเอก นราธิป สมเย็น รองสารวัตรสอบสวน สน.ปากคลองสาน ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้ท่าน้ำวัดทองธรรมชาติ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ จึงเร่งนำกำลังพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยด่วน

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบร่างหญิงวัยกลางคน สภาพลอยคว่ำหน้าในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า ผิวขาว ผมยาว สูงราว 150 เซนติเมตร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง — ร่างของเธอถูกผูกไว้กับเชือกริมท่าน้ำใต้สะพานพุทธ เพื่อรอการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอน

จากการตรวจสอบย้อนหลังกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานกรุงธนฯ พบภาพหญิงสาวแต่งกายชุดเดียวกัน เดินอย่างโดดเดี่ยวบนสะพานในคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับคืนวันลอยกระทง — ค่ำคืนที่ผู้คนต่างขอพรให้ชีวิตสดใสขึ้น แต่สำหรับเธอ…กลับเป็นการขอพรครั้งสุดท้ายก่อนจากลาโลกใบนี้

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสะพายสีดำ ภายในมีบัตรประชาชนระบุชื่อหญิงวัย 46 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย และจดหมายลาตายหนึ่งฉบับ ถ้อยคำในจดหมายนั้นสะเทือนใจยิ่งนัก

“เบื่อโลก เบื่อชีวิต โรครุมเร้า ทำงานก็ไม่ได้ การเงิน สุขภาพแย่ไปหมด เหนื่อยกับชีวิต ไม่อยากอยู่แล้ว เข็ดขยาดกับโลกใบนี้… ลาก่อนทุกคน”

ท้ายจดหมาย เธอเขียนขอไว้กับญาติและผู้มีเมตตา ให้ช่วยนำร่างไปเผาที่ “วัดราษฎร์ประคองธรรม” โดยไม่ต้องจัดพิธีใด ๆ เพราะวัดนี้เผาศพให้ฟรี พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ครบถ้วน — แสดงให้เห็นถึงความคิดสุดท้ายของหญิงผู้ไม่อยากให้ใครต้องลำบากเพราะเธออีกต่อไป

ไม่นานนัก ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธ ก่อนยืนยันด้วยน้ำตาว่า ร่างที่เห็นตรงหน้า คือ “เธอ” จริง ๆ… ญาติเล่าว่า ผู้ตายจากบ้านเกิดจังหวัดเชียงรายมาทำงานในกรุงเทพฯ แต่พักหลังเริ่มมีปัญหาสุขภาพรุมเร้า ทำงานไม่ไหว รายได้ลด ความหวังในชีวิตค่อย ๆ ดับลงทีละน้อย จนสุดท้ายเธอตัดสินใจจบทุกความเจ็บปวดในคืนที่คนทั้งประเทศกำลังลอยทุกข์ของตนเองลงน้ำ

เบื้องต้น แพทย์นิติเวชตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย ร่างของเธอจะถูกส่งไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง… บางคนลอยกระทงเพื่อเริ่มต้นใหม่
แต่บางคน — ลอยชีวิตของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย
เพราะ “เมื่อความหวังดับลง ความมืดของใจ” ก็อาจกลืนได้แม้แต่แสงเทียนในกระทง