บช.น.บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฟอกเงิน ยึดทรัพย์กว่า 5 ล้าน – พบคีตามีนเกือบ 1 กก. ซุกบ้านลาดกระบัง
บช.น.บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฟอกเงิน ยึดทรัพย์กว่า 5 ล้าน – พบคีตามีนเกือบ 1 กก. ซุกบ้านลาดกระบัง
กองบัญชาการตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการเจาะขบวนการคอลเซ็นเตอร์ฟอกเงินข้ามชาติ หลังครั้งนี้พบเชื่อมโยงผู้ต้องหาชาวฮ่องกงหลอกเหยื่อหญิงไทยวัย 80 ปี สูญทรัพย์กว่า 4 ล้านบาท ก่อนขยายผลเข้าทลายเครือข่ายซุกซ่อนยาเสพติดและทรัพย์สินผิดกฎหมายมูลค่าสูงในพื้นที่ลาดกระบัง

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. และชุดผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่สั่งเร่งกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์อย่างเด็ดขาด โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และคณะนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลใกล้ชิด
คดีเริ่มต้นจากเหตุหญิงไทยอายุ 80 ปี ถูกชายชาวฮ่องกงหลอกลวงให้โอนเงินและส่งทรัพย์สิน รวมความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท โดยตำรวจ สน.วังทองหลาง และ กก.สส.บก.น.6 ตรวจสอบพบการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเข้าข่ายฟอกเงิน จึงร่วมกำลังหลายหน่วยสืบสวนขยายผล

ต่อมาวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ชุดสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 และ กก.สส.บก.น.6 สามารถวางแผนจับกุม MR. MING ชาวฮ่องกง ผู้ต้องหาในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” หลังล่อให้เข้ามารับทองคำแท่งจากผู้เสียหายที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์
จากการขยายผลพบว่าเงินสด 1 ล้านบาทที่ผู้เสียหายในคดี สน.วังทองหลางถูกหลอกนั้น MR. MING นำไปส่งต่อให้ชายชาวจีนภายในซอยสุขุมวิท 81 ซึ่งพักอยู่ย่านลาดกระบัง
บุกค้นตีห้าครึ่ง – พบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา
กระทั่งเวลา 06.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในซอยลาดกระบัง 1ก/7 ตามหมายค้นศาลอาญา ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568

ผลการตรวจค้นพบ MR. TSAI CHUN-MING ชายชาวต่างชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน แสดงตนเป็นบุคคลอื่น และสมคบฟอกเงิน
เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และยินยอมให้ตรวจค้นบ้าน ซึ่งนำไปสู่การพบยาเสพติดและของกลางจำนวนมาก
ยึดคีตามีนเกือบ 1 กิโล – อุปกรณ์ชั่ง–ซีล–แบ่งครบชุด
ของกลางยาเสพติดรวม 10 รายการ ได้แก่
คีตามีนชนิดเกล็ดใสรวมกว่า 1 กิโลกรัม (914.4 กรัม, 20 กรัม, 19.1 กรัม, 35.3 กรัม, และ 3 ถุง ๆ ละ 50.5 กรัม)
เครื่องชั่งดิจิทัล 2 เครื่อง
ถุงพลาสติกแบบกดปิด 2 แพ็ก
เครื่องซีลพลาสติก 1 เครื่อง

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเอง
ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวพร้อมยาเสพติดส่ง สน.ลาดกระบัง ส่วนคดีฉ้อโกงและฟอกเงินแยกดำเนินการโดยพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง
จากการตรวจยึดทรัพย์เพิ่มเติม พบทรัพย์สินที่เข้าข่ายฟอกเงินรวมมูลค่า กว่า 5 ล้านบาท อาทิ
กระเป๋าเงินดิจิทัล (Hardware Wallet) 2 เครื่อง
หนังสือเดินทาง 2 เล่ม
สมุดบัญชีธนาคาร 16 เล่ม
คอมพิวเตอร์ Apple 1 เครื่อง
กระเป๋าแบรนด์เนม 6 ใบ
แหวนเพชร 7 วง เครื่องประดับรวมหลายรายการ
ซิมการ์ด 2 อัน
โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง
เครื่องนับธนบัตร 1 เครื่อง
รถยนต์ 3 คัน
รถจักรยานยนต์ 2 คัน
กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ
ทั้งหมดถูกส่งต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

