ตำรวจบางเสาธง เตรียมออกหมายจับสองมือปืนซันโวลูกซองใส่อดีตเพื่อนร่วมงานดับ 2 เจ็บ 1
ตำรวจบางเสาธง เตรียมออกหมายจับสองมือปืนซันโวลูกซองใส่อดีตเพื่อนร่วมงานดับ 2 เจ็บ 1
จากกรณีที่มีสองวัยรุ่นโรงงานขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มายังขอบสนามฟุตบอลภายในซอยไทยประกัน 1/5 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ช่วงสามทุ่มของคืนวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ก่อนจะที่ นายโบ้ ชายชุดดำ จะควักปืนไม่ทราบขนาดพยามยิงใส่ฝั่งตรงข้าม แต่กระสุนด้าน ซึ่งจังหวะนั้นเอง ฝั่งของผู้ตายพร้อมกับเพื่อนจึงเดินออกมาชะโงกดูที่ขอบประตูทางเข้าสนาม ทำให้นาย ธง เพื่อนของนายโบ้ ได้ควักปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ขึ้นมาแล้วลั่นไกลใส่กลุ่มผู้ตาย โดยกระสุนแฉลบเข้าที่แผ่นเมทัลชีทข้างสนาม พุ่งเข้ากลางอกและลำคอของผู้ตายและเพื่อน จนต้องพากันวิ่งหนีเข้าไปในสนาม ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งสองหลังก่อเหตุจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนี
ล่าสุดช่วงสาย วันที่19 กรกฎาคม 2568 ทีมข่าวเราลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งทางด้านผู้ดูแลสนามบอลได้ออกมาล้างทำความสะอาดสนามบอลเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ยังคงพบร่องรอยกระสุนปืนถากแฉลบที่ผนังกั้นสังกะสี และเสา ข้างสนามฟุตบอล
ขณะที่ คุณลุง พ่อค้ำส้มตำ บอกกับนักข่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ ตอนนั้นเข้านอนแล้ว จนได้ยินเสียงปืนจึงเปิดหน้าต่างดูพบว่าคนก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว เห็นเพียงคนกำลังช่วยกันปั้มหัวใจช่วยคนเจ็บ ซึ่งปกติแล้วในซอยนี้ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนสนามฟุตบอลแห่งนี้ ก็ไม่เคยมีเรื่องตีต่อยกันแต่อย่างใด
ส่วนพี่ โต นามสมมุติ ซึ่งเป็นพ่อค้าที่ขายอาหารในละแวกโรงงานที่กลุ่มผู้ตายทำงานอยู่ ซึ่งพี่โต บอกกับทีมข่าวเราว่า คนตายทั้งสองคนรวมถึงผู้บาดเจ็บ เป็นลูกค้าประจำที่ร้าน และ ก่อนเกิดเรื่องไม่กี่วัน ผู้ตายยังเอ่ยปากชวนตนเองไปขี่รถเล่นย่านปากน้ำ ซึ่งตนเองก็ตั้งใจว่าจะพากันไปกินขนมปังปิ้งแถวปากน้ำ ปกติแล้วน้องๆจะเป็นเด็กนิสัยค่อนข้างดี พูดจาเรียกพี่ทุกคำ แถมยังเคยเล่าให้ฟังว่าถูกผู้ก่อเหตุชักปืนขู่มาแล้วครั้งหนึ่ง และอยากให้ตนเองไปเคลียร์ให้ แต่ก็ยังไม่ทันได้เข้าไปเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ฝั่งผู้ก่อเหตุพากันขี่รถจักรยานยนต์มาวนและเบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ที่หน้าโรงงาน ก่อนจะไปวนหาที่หน้าตึกที่ผู้ตายพักอยู่ แต่ไม่เจอและทราบว่าผู้ตายอยู่ที่สนามบอลจึงตามไปก่อเหตุที่สนามฟุตบอล ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บ ล่าสุดปลอดภัยแล้ว กระสุนฝังเข้าที่คาง ซึ่งคุณหมออยู่ระหว่างผ่าตัดรักษา
ส่วนเพื่อนของผู้ตายอีกคน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและเพื่อนเตะฟุตบอลกันอยู่ จากนั้น ก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุมาถึงสนามก็ตจะโกนว่ามึงท้าทายกูเหรอ ก่อนที่ นายชญามร หรือ นายวิน จะออกไปกับเพื่อนจนกระทั่งถูกยิงสวนกลับมา ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆในสนาม
ส่วน คุณ โชคชัย ซึ่งเป็นน้าชายของ นาย ไชยวัฒน์ ที่ถูกลูกหลงจนกระทั่งเสียชีวิต เปิดใจกับนักข่าวเราว่า ตนเองทำงานคนละที่กับหลาน เรื่องปมสาเหตุตนเองไม่ทราบ แต่การสูญเสียหลานชายครั้งนี้ ตนอยากบอกว่าเป็นการทำรุนแรงเกินไปถึงขั้นเอาชีวิตกัน แทนที่จะคุยกันเคลียร์กัน แต่กลับมาถึงเอาปืนมายิงใส่แบบนี้ มันอุอาจเกินไป จึงอยากให้ทางตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนแม่ของนายไชยวัฒน์ พอทราบข่าวก็ช็อกและร้องไห้ตลอดเวลา ตอนนี้อยู่ระหว่างเดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ บอกว่า คดีนี้ทางด้าน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นคดีอุอาจและก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงสั่งการให้ระดมทีมฝ่ายสืบสวน ซึ่งขณะนี้ ผู้การตั้งทีมไล่ล่าตัว 3 คณะ โดยจัดชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนจังหวัดจังหวัดสมุทรปราการ และชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง แบ่งทีมออกไล่ล่าสองมือปืนที่ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ยังหลบหนี พร้อมกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หากผู้ก่อเหตุต่อสู้ขัดขืนก็ให้ดำเนินการตามยุทธวิธีของตำรวจทันที เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน ส่วนพนักงานสอบสวนสั่งการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับทั้งสองคน ประกอบด้วย นาย พิศาล(หรือ โบ้) วิเลิศรัมย์ อายุ 23 ปี และ นาย ธีรนันท์(หรือ ธง) สุวรรณกุฎ อายุ 20 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยามฆ่าผู้อื่น และข้อหาตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน
************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ