ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

Next Move ประจวบต้องไปต่อ “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู+ใบชะพลูกรอบ” เมนูเด็ดคุมประพฤติประจวบฯ ชนะเลิศStreet Food สร้างอาชีพ เขต 7 เข้าชิงระดับประเทศ

Next Move ประจวบต้องไปต่อ “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู+ใบชะพลูกรอบ” เมนูเด็ดคุมประพฤติประจวบฯ ชนะเลิศStreet Food สร้างอาชีพ เขต 7 เข้าชิงระดับประเทศ
วันที่ 5 ก.ค.68 ได้รับการเปิดเผยจาก นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติฯพร้อมคณะอาสาสมัครคุมประพฤติ(อ.ส.ค.) และผู้ถูกคุมประพฤติที่ผ่านการคัดเลือกจากการแข่งStreet Food สร้างอาชีพ ระดับจังหวัดฯ ทั้งประเภทอาหารคาวและอาหารหวานและเป็นตัวแทนสำนักงานคุมประพฤติ จ.ประจวบฯ เข้าแข่งประกวดการทำอาหารในระดับภาค 7 ซึ่งจัดขึ้นที่ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร


โดยทั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้มอบหมายให้ สำนักงานคุมประพฤติในเขต 7 ดำเนินการจัดโครงการการประกวดทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ กรมคุมประพฤติ ระดับภาค (เขต 7) ประจำปี 2568 มีผู้เข้าร่วมการประกวดทำอาหารที่มาจากทั้ง 8 จังหวัด 9 สำนักงานประกอบด้วย สำนักงานสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และ สำนักงาน จ.ประจวบฯ สาขาหัวหิน
นายวสันต์ เภรีวิค ผอ.คุมประพฤติฯ จ.ประจวบฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนทีมสำนักงานฯประจวบฯ ส่งเข้าประกวดทั้ง 2 เมนู ทั้งประเภทอาหารคาวและอาหารหวาน โดยอาหารคาว จ.ประจวบฯส่งเมนู “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปูกับใบชะพลูกรอบ” และ อาหารหวาน เป็น “กล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน” ซึ่งทั้ง 2 เมนู ได้ใช้วัตถุดิบในพื้นถิ่นเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดฯ ดังคำขวัญจังหวัดประจวบฯที่ว่า “ เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ” นับว่าวัตถุดิบทั้ง 2 เมนู ไม่ว่าจะเป็น สับปะรด หรือ มะพร้าว ก็ล้วนแต่เป็นผลไม้ที่ปลูกกันมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งเข้ากับแนวคิดการจัดแข่งขันที่ให้นำวัตถุดิบที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดมาทำอาหาร
โดยผลการแข่งขัน “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู+ใบชะพลูกรอบ” ของ จ.ประจวบฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทอาหารคาว ได้เงินรางวัล 3,000 บาท จากการตัดสินของคณะกรรมการฯผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง 3 คน มีนายอำนาจ คำนำ อุปนายก คนที่ 2 สมาคมเดอะเชฟแห่งประเทศไทย นายหมวดตรี เพิ่มสิน เอียดเอื้อ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.สมุทรสาคร และ นายณัฐวุฒิ เอกจีโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจ.สมุทรสาคร และได้เป็นตัวแทนของ ภาค 7 เข้าไปแข่งรอบสุดท้าย Street Food สร้างอาชีพ ในระดับประเทศที่ส่วนกลางต่อไป โดยรางวัลรองชนะเลิศอาหารคาว ได้แก่ รองอันดับ 1 เมนู “บาบีคิว บาบีใจ” ของสำนักงานคุมประพฤติ จ.สมุทรสาคร รับเงินรางวัล 2,000 บาท รองอันดับ 2 สำนักงานคุมประพฤติ จ.ประจวบฯ ( สาขาหัวหิน) เมนู “แกงหลอก” รับเงิน 1,000 บาท
ส่วนประเภทอาหารหวาน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เมนู “บัวลอย 5 สี” ของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร รับเงินรางวัล 3,000 บาท รองอันดับ 1 เมนู “สายทองล่องลอย” ของสำนักงานฯ จ.นครปฐม รับเงินรางวัล 2,000 บาท รองอันดับ 2 เมนู“บัวลอยมณีแก้วพาเพลิน” ของสำนักงานฯ จ.สุพรรณบุรี รับรางวัล 1,000 บาท ส่วนเมนู“กล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน” ของ สำนักงานฯ จ.ประจวบฯ รับรางวัลชมเชย ซึ่งเมนูชนะเลิศทั้ง 2 ประเภท ทั้งประเภทอาหารคาว “เมนูแกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปูกับใบชะพลูกรอบ” ของ สนง.คุมประพฤติ จ.ประจวบฯ และอาหารหวาน “เมนูบัวลอย 5 สี” ของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร จะได้เป็นตัวแทนระดับเขต 7 เข้าร่วมต่อในเวทีแข่งรอบสุดท้าย Street Food สร้างอาชีพ ในระดับประเทศ ต่อไป
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตามนโยบาย นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ที่ได้มอบให้ขับเคลื่อน Next Move Prachuap ประจวบต้องไปต่อ โดยให้แนวทางและเป้าหมายการพัฒนาของจังหวัดใน 10 ประเด็นยุทธศาสตร์ และนับได้ว่า เมนูอาหารของ สนง.คุมประพฤติฯประจวบฯ ที่ชนะเลิศ Street Food สร้างอาชีพ กรมคุมประพฤติ ระดับภาค เมนูแกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปูกับใบชะพลูกรอบ” ก็อยู่ในแผนการสร้างกลยุทธ์ Wellness Economy ระดับหมู่บ้าน ชุมชน ที่จะต่อยอดสร้างมูลค่าได้ในด้านอาหารและการท่องเที่ยว อีกทั้งยังด้านส่งเสริมสินค้าเกษตรในท้องถิ่นนำมาแปรรูป รังสรรค์เมนูอาหารขึ้นสำรับโต๊ะอาหารในร้านอาหาร ต่อไป/////
สำหรับการประกวด Street Food สร้างอาชีพ กรมคุมประพฤติ จะดำเนินการใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับสำนักงานคุมประพฤติ ระดับเขต และระดับประเทศ เพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น พร้อมต่อยอดสู่การเป็นมืออาชีพ และเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จของการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป
ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดหลังพ้นโทษ ด้วยการช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างยั่งยืนโดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ผ่านการสนับสนุนด้านการศึกษาและทักษะที่จำเป็น การจัดฝึกอบรมอาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานสร้างรายได้ รวมถึงให้ทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพ////////////

พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644