ข่าวพาดหัวฉ้อโกงประชาชนทุกข์ชาวบ้าน

โดนไล่ออกแล้ว “เจ๊นก ถ้ำหลวง ” หลังหลอกเงิน 70,000 แลกฝากเข้าทำงานถ้ำหลวงฯ เจ้าทุกข์แห่ร้องผู้ว่าฯเชียงรายอีกเพียบ

เหยื่อ ” เจ๊นก ถ้ำหลวง ” บุกร้องผู้ว่าฯ เชียงราย

ชมคลิป

เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 28 กันยายน 2563 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากกรณีถูกคนเรียกรับเงินอ้างว่าสามารถรับเข้าไปทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 13 คน ซึ่งแต่ละรายถูกเรียกรับเงินโดยมีทั้งจ่ายแบบเงินสด แบบโอนไปครั้งละ ประมาณ 30,000-40,000 บาท รวมประมาณกว่า 70,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายที่ถูกหลอก ได้พากันไปร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย โดยกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 13 ราย ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฤทัยวรรณ ปฎิเสน หรือ “เจ๊นก ถ้ำหลวง” พนักงานราชการของ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน พร้อมด้วย นายสุพรรณ รักเมือง เจ้าหน้าที่สังกัด กรมป่าไม้ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการเจรจาเพื่อขอรับเงินที่จ่ายไปคืน โดยเจ๊นก ถ้ำหลวง ได้พิมพ์สนทนา กับกลุ่มผู้เสียหาย ในกรุ๊ปไลน์ ที่เจ๊นก ถ้ำหลวง ได้ตั้งขึ้นมา โดยเจ๊กนก ระบุว่า จะทยอยคืนเงินให้กับคนที่ไม่ไปแจ้งความก่อน จนทำให้ ผู้เสียหายอีกหลายสิบราย ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เพราะหวังว่าจะได้เงินคืน แต่รอจนเนินนาน เจ๊นก ก็ไม่ยอมคืนให้ หลายๆคนได้คืน ก็ได้แค่เพียงคนละ500 บาท แล้วเงียบหายไม่ติดต่อกลับทั้งที่เจ๊นก ก็ยังกินอิ่มนอนอุ่นใช้ชีวิตตามปรกติอยู่ในแม่สาย ได้อย่างสบายใจเชิบ จึงทำให้ผู้เสียหายหลายสิบคนรวมตัวกันไปแจ้งความเพิ่มเพราะรู้แน่ว่าตัวเองได้ถูกเจ๊นก หลอกชนิดเต็ม 100%

ภายหลังจากผ่านระยะเวลาไปหลายเดือน โดยผู้เสียหายบางส่วนไปทยอยไปแจ้งความทั้ง สภ.เมืองเชียงราย และ สภ.แม่สาย เพราะเป็นสภานที่ๆเจ๊กนก ถ้ำหลวง และ นายสุพรรณ นัดผู้เสียหายมาพบและรับเงินสดไป และมีหลายคนที่โอนเงินเข้าบัญชี ทั้งบัญชีชื่อของเจ๊นก และ นายสุพรรณ จึงไปแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง ตั้งแต่เมื่อเดือน มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมาแต่ทุกคนก็ยังไม่ได้รับเงินคืนอย่างครบถ้วน และคดีก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ซึ่งการมายื่นหนังสือให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในครั้งนี้ได้มี นายวีระชาติ สุวรรณา ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย เป็นผู้เข้ามารับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหายทั้ง 13 ราย พร้อมทั้งแจ้งว่าหลังเกิดเหตุการร้องเรียนของประชาชนเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ได้สอบถามไปยัง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ น.ส.ฤทัยวรรณ ปฎิเสน ซึ่งทราบว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและ ทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ดำเนินการทางวินัย ด้วยการ ไล่ออกจากราชการ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ว่าวันนี้ นางสาวฤทัยวรรณ ปฏิเสน หรือเจ๊นก ถ้ำหลวง จะออกจากราชการไปแล้ว แต่ที่ผ่านมามีชาวบ้านที่ไปแจ้งความเอาไว้ กว่า 20 ราย จึงยังสามารถติดตามเอาทรัพย์สินคืนได้ตามกฎหมาย ซึ่งทางศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านในการติดตามข้อมูลให้ต่อไป

นายวีระชาติ ยังกล่าวว่าเมื่อมีการไล่ออกจากราชการไปแล้วก็จะเป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติต่อไป กระนั้นทางศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย จะได้รวบรวมข้ที่ศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย ตั้งอยู่ในอาคารศาลากลาง จ.เชียงราย ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากกรณีถูกคนเรียกรับเงินอ้างว่าสามารถรับเข้าไปทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 13 คน ซึ่งแต่ละรายถูกเรียกรับเงินโดยมีแต่โอนไปครั้งละ
ฟประมาณ 30,000-40,000 บาท รวมประมาณ 70,000 บาท พากันไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฤทัยวรรณ ปฎิเสน หรือ “นก” พนักงานราชการของอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ และมีการเจรจาเพื่อขอรับเงินที่จ่ายไปคืนนั้นปรากกฎว่าหลังจากผ่านระยะเวลาไปหลายเดือน โดยบางส่วนไปแจ้งความต่อ สภ.เมืองเชียงราย ในข้อหาฉ้อโกง เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับเงินคืนอย่างครบถ้วนแต่อย่างใด
ซึ่งทางนายวีระชาติ สุวรรณา ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย ได้เข้ารับเรื่องร้องทุกข์พร้อมแจ้งว่าหลังเกิดเหตุการร้องเรียนของประชาชนเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้ทำให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ น.ส.ฤทัยวรรณ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัแล้วก็ได้ไล่ออกจากราชการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ นางสาวฤทัยวรรณ ปฏิเสน หรือเจ๊นก ถ้ำหลวง จะถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมามีชาวบ้านที่ไปแจ้งความดำเนินคดี เอาไว้กว่า 20 ราย จึงยังสามารถติดตามเอาทรัพย์สินคืนได้ตามกฎหมาย ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านในการติดตามข้อมูลให้ต่อไป

นายวีระชาติ กล่าวอีกว่าเมื่อมีการไล่ออกจากราชการไปแล้วต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติต่อไป กระนั้นทางศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย จะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อทำเป็นหนังสือเสนอต่อ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ให้พิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เสียหายอีกทางหนึ่งด้วย
เพราะกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาการเรียกรับเงินที่เกี่ยวข้องกับ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ที่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จนทางอุทยานเคยมีประกาศเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อการหลอกลวงดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้งในเดือน กันยายน 2562 และอีกครั้งในวันวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 และมีผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศมาแล้ว จนทำให้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ย้าย น.ส.ฤทัยวรรณ หรือ เจ๊นก ถ้ำหลวง ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ในช่วงที่มีการตรวจสอบกระทั่งมีคำสั่งจากกรมฯ ให้ ไล่ออกจากราชการดังกล่าว ส่วนการเจรจาเพื่อมอบเงินคืนให้ผู้เสียหายนั้นมีการตั้งกลุ่มไลน์เพื่อเจรจาคืนเงินระหว่างผู้เสียหายและ น.ส.ฤทัยวรรณ หรือ ” เจ๊นก ถ้ำหลวง ” โดยมีผู้ได้รับเงินคืนแล้วบางส่วนและได้รับคืนแล้วแต่ไม่เต็มจำนวนรวมทั้งยังไม่ได้รับจนเป็นที่มาของการร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย ในครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายก็พึ่งพอใจในคำตอบจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย จึงพากันแยกย้ายกลับบ้าน เพื่อรอผลการช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย ต่อไป

ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ ทั่วไทยนิวส์ จ.เชียงราย รายงาน โทร. 0816888600